Thursday, March 31, 2011

Reload equipments for Revolvers

Reload equipments for Revolvers



เป็นที่ยอมรับกันว่าปืนลูกโม่ที่ใช้งานกันทั่วไป เช่น .38 Special, .357 Magnum นั้นมีข้อเสียเปรียบปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติอย่างหนึ่งก็คือ จำนวนกระสุนที่บรรจุได้ เพราะปืนลูกโม่มักสามารถบรรจุกระสุนได้เพียง 5 หรือ 6 นัด เป็นส่วนใหญ่ขึ้นกับโครงปืนว่าใหญ่หรือเล็กแค่ไหน (มีบางรุ่นที่อาจบรรจุได้ถึง 8 นัด แต่โครงปืนใหญ่มากและไม่นิยม)


ถึงแม้การบรรจุกระสุนด้วยมือเปล่านั้นเป็นพื้นฐานที่ต้องฝึกฝนให้ชำนาญ แต่ก็มีอุปกรณ์ช่วยบรรจุซึ่งสามารถทำให้การบรรจุกระสุนในปืนลูกโม่นั้นทำได้ง่ายและรวดเร็ว


- Speed loader เป็นอุปกรณ์ที่นิยมมากสำหรับผู้ชื่นชอบปืนลูกโม่ เพราะมีขนาดเล็กใช้งานง่าย โดยเลือกขนาดของ Speed loader ให้เหมาะกับโครงปืนที่จะนำไปใช้ เมื่อยิงปืนจนกระสุนหมดและคัดปลอกกระสุนออกแล้วก็ให้ใช้ Speed loader บรรจุกระสุนชุดใหม่เข้าไป โดยหมุนปุ่มที่ก้นของ loader เล็กน้อยจะเป็นการคลายตัวหนีบกระสุน ทำให้กระสุนไหลเข้าสู่โม่อย่างง่ายดาย


- Jet loader นิยมใช้ในการแข่งขันยิงปืนแต่ก็สามารถนำมาใช้งานตามปกติได้ด้วย Jet loader มักมีขนาดใหญ่กว่า Speed loader (มีบางรุ่นที่มีขนาดใกล้เคียงกับ Speed loader) เนื่องจากมีสปริงอยู่ที่ด้ามจับ เวลาบรรจุกระสุนเมื่อจ่อกระสุนเข้าที่รูทั้งหมดของโม่แล้วก็ทำการตบไปที่ปุ่มท้าย loader จะเป็นการปลดสปริงและตัวยึดกระสุน แรงดีดของสปริงจะดันกระสุนเข้าโม่อย่างรวดเร็ว


- Speed strip เป็นแผ่นยางตรงแข็งแต่งอได้มีหลุมสำหรับวางกระสุนปืนและหนีบจานท้ายกระสุนไว้ Speed strip เนื่องจากเป็นแผ่นตรงไม่นูนกลมเห็นได้เด่นชัดเหมือน loader ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ จึงเหมาะแก่การพกซ่อนและเสียพื้นที่ในการพกพากระสุนน้อยกว่า เวลาใช้งานก็วางนิ้วชี้มือขวา (ถนัดมือขวา) ไว้ตลอดแนวยาวของ strip ด้านหลัง ให้บรรจุทีละสองนัดเข้ารังเพลิงโดยจ่อกระสุนที่ท้ายรังเพลิงในโม่ แล้วดัน strip ให้งอไปทางปลายนิ้วชี้ จะทำให้กระสุนหลุดออกจากหลุมของ strip ไหลเข้าโม่ได้



- Full moon / Half moon clip ปืนลูกโม่บางรุ่นถูกออกแบบมาให้บรรจุกระสุนด้วย clip พิเศษ โดย Full moon clip นั้นจะมีแผ่นเหล็กบรรจุกระสุนครบรอบวงของโม่ แต่ Half moon clip จะใช้แผ่นเหล็กสองแผ่นเพื่อบรรจุกระสุนให้ครบวงของโม่ เราต้องเตรียมบรรจุกระสุนใส่ใน clip ไว้ก่อน เมื่อยิงปืนจนครบทุกนัดก็ให้คัดปลอกกระสุนออก (ปลอกกระสุนเปล่าก็ติดอยู่กับ clip ดังนั้นทั้งปลอกและ clip จะหลุดออกไปพร้อมกัน) หลังจากนั้นก็หยิบ clip ใหม่ซึ่งมีกระสุนติดอยู่ใส่กลับเข้าไปในโม่ ปิดโม่แล้วทำการยิงต่อได้


หลายคนที่ใช้ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติอาจคิดว่า ปืนของตนนั้นเพียงแค่เปลี่ยนซองกระสุนไม่กี่วินาทีก็สามารถทำการยิงต่อเนื่องได้แล้ว ไม่เสียเวลามากเหมือนปืนลูกโม่ที่ต้องนั่งบรรจุกระสุนทีละนัดหรือสองนัดเข้ารังเพลิงด้วยมือ สิ่งนี้จะเป็นจริงได้ก็ต่อเมื่อเราได้บรรจุกระสุนใส่ในซองกระสุนเตรียมไว้ก่อนแล้วเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นหากต้องมาบรรจุกระสุนใส่ในซองกระสุนทีละนัดแล้วค่อยใส่ในตัวปืนคงเสียเวลามากกว่าปืนลูกโม่ที่บรรจุด้วยมือเป็นแน่ ในขณะเดียวกันหากผู้ที่ใช้ปืนลูกโม่ได้เตรียมอุปกรณ์ช่วยบรรจุดังกล่าวไว้แล้ว ระยะเวลาในการบรรจุกระสุนใหม่ก็ไม่ได้นานไปกว่าปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติแต่อย่างใด


อุปกรณ์ช่วยบรรจุทั้งหลายต่างก็มีทั้งข้อดี ข้อด้อยแตกต่างกัน ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานและความถนัดของเรา


ผู้ที่ใช้ปืนลูกโม่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกการบรรจุกระสุนไม่ว่าจะด้วยมือเปล่า หรือใช้อุปกรณ์ช่วยบรรจุเพื่อให้เกิดทักษะความชำนาญ


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”



เรียบเรียงโดย Batman

Thursday, March 24, 2011

Glock


Glock


หากย้อนกลับไปในช่วงกลางปี ค.ศ. 1980s ตำนานปืน Glock ได้ถือกำเนิดขึ้น สร้างความแตกต่างจากปืนมาตรฐานในขณะนั้น ปลุกกระแสปืนโครงโพลิเมอร์ไปทั่วโลก


นาย Chuck Taylor (เจ้าของ Chuck Taylor’s American Small Arm Academy หรือ CTASAA) พบว่าตลอดระยะเวลาที่เขาเป็นครูสอนยิงปืนมาหลายปี นักเรียนที่ใช้ปืน Glock เพิ่มมากขึ้นตลอดเวลาอย่างเห็นได้ชัด มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ของนักเรียนของเขาจะมีปืน Glock ไม่รุ่นใดก็รุ่นหนึ่ง


แต่ก่อนนั้นปืนรุ่น 1911 สามารถพบเห็นได้มากที่สุด แต่ปัจจุบันนี้มันได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว ปืน Glock เป็นอนาคตของปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ


Glock เป็นปืนที่ถูกออกแบบครั้งแรกด้วยแนวคิดใหม่อย่างชาญฉลาดในช่วงปี ค.ศ. 1930s แต่ไม่ได้รับความนิยม เพราะต้องฝ่กระแสความเคยชินในการพกปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ Single action แบบ Condition 1 (Cocked & Locked) ซึ่งนิยมมากในสมัยนั้น ในที่สุด Glock ก็สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ถึงประสิทธิภาพของมันและเป็นที่ยอมรับของวงการปืนทั่วโลก ในอเมริกาตำรวจมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ใช้ปืน Glock


ปืน Glock นั้นใช้งานง่าย มีความแม่นยำ กลไกทำงานของปืนมีความน่าเชื่อถือสูง สามารถบรรจุกระสุนได้มากและทำความสะอาดปืนก็ง่ายเช่นกัน


ในการฝึกใช้ปืน Glock นั้น จะต้องมีเป้าหมายอยู่ที่การดึงศักยภาพของปืนออกมาให้ได้จนถึงขีดสุด ซึ่งต้องอาศัยศูนย์ฝึกอบรมยิงปืนที่ดี จำเป็นต้องสอนพื้นฐานการยิงปืนทั่วไป วิธีการซึ่งสามารถทำให้ยิงได้อย่างแม่นยำมากขึ้น และเพิ่มพูนความรู้ด้วยการยิงปืนที่ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ เช่น การเคลื่อนที่ยิง การยิงหลังที่กำบัง และสอนวิธีการแก้ไขเหตุติดขัดของปืนด้วย โดยอยู่บนพื้นฐานของหลักการใช้ปืนเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้น


ส่วนการฝึกอบรมยิงปืนในขั้นสูง (Advanced training) นั้น นอกจากฝึกการยิงปืนพื้นฐานให้ดีแล้วยังต้องรวมไปถึงการใช้ความคิดและการตัดสินใจในภาวะความกดดันสูงด้วย ปืน Glock เป็นปืนที่มีความน่าเชื้อถือในการทำงานสูง ดังนั้นเราจึงใส่ใจแต่เฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ต่อสถานการณ์เบื้องหน้าก็พอ

TAS สอนการยิงปืนเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย โดยครอบคลุมเนื้อหาตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงระดับสูง


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”
                                                                                                            เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง Advanced Glock Training Techniques ของ Chuck Taylor

Sunday, March 20, 2011



Police
Pistols in Europe


เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของตำรวจในยุโรปใช้กระสุนปืนแบบรูเกอร์ (Lugers) ขนาด 9 ม.ม. ไม่มี .357 Sig, .40 S&W, .45 ACP ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

มีการศึกษาอย่างเป็นระบบในยุโรปพบว่ากระสุนขนาด 9 x19 (กระสุนขนาด 9 ม.ม.) ซึ่งคิดค้นโดยนาย Georg Luger ในปี ค.ศ. 1902 นั้นยังใช้ได้ผลดีมากในการใช้งานจริงตามท้องถนน คงไม่มีใครปฏิเสธเกี่ยวกับการทดสอบกระสุนแต่ละขนาดในห้องปฏิบัติการด้วยกระสุนปืนขนาดต่างๆย่อมมีผลที่ต่างกัน แต่ในความเป็นจริงนั้นประสิทธิภาพในการยิงถูกเป้าหมายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

กระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. สมัยใหม่ซึ่งมีการออกแบบให้มีสมรรถนะสูง (High-performance bullets) ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสำหรับตำรวจยุโรป

ในสมัยก่อนกระสุนขนาด 9 ม.ม. ที่ใช้กันนั้นเป็น FMJ (Full Metal Jacket) ขนาด 124 เกรน มีปัญหาในการใช้งานจริงโดยเฉพาะเรื่องอำนาจทะลุทะลวงที่มากเกินไป การออกแบบกระสุนใหม่ เช่น กระสุนซึ่งมีน้ำหนักหัวกระสุนเพียง 94 เกรน หัวรูหุ้มด้วยทองแดงแบบพิเศษที่ปลายหัวกระสุนเป็นพลาสติก ทำให้ลดปัญหานี้ลงไปได้มาก

ในปัจจุบันนี้ตำรวจยุโรปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ใช้ปืนโครงโพลิเมอร์ ในกรณีของปืน Glock นั้นไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของปืนในประเทศเยอรมัน ดังนั้นในเยอรมันจึงใช้ปืนยี่ห้ออื่นแทน (ข่าววงในกล่าวว่าที่ประเทศเยอรมันกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยซึ่งปืน Glock ไม่ผ่านนั้น เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมปืนภายในประเทศของตนเอง)

มีความแตกต่างกันมากในวัฒนธรรมระหว่างตำรวจยุโรปและอเมริกา ยกตัวอย่างเช่น ในเยอรมันตำรวจปกติซึ่งไม่ได้มีความสนใจในการยิงปืนเป็นการส่วนตัว มักจะมีโอกาสฝึกยิงปืนเพียง 100 นัดต่อปีเท่านั้นเอง ส่วนใหญ่มักใช้ปืนโครงโพลิเมอร์ DAO (Double Action Only) เพราะต้องการปืนซึ่งมีไกที่ลากยาวก่อนยิงเพื่อเพิ่มความปลอดภัย ลดโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุปืนลั่นออกไปโดยไม่ตั้งใจ

ในฝรั่งเศสซึ่งมีบางพื้นที่ห้ามตำรวจเข้า หากคุณแสดงตัวว่าเป็นตำรวจผ่านเข้าไปอาจถูกยิงด้วยปืนกลมือ หรือรถของคุณอาจถูกยิงด้วยจรวดต่อต้านรถถังทีเดียว ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกอพยพเข้ามาในฝรั่งเศส ปืน SIG SAUER เช่น SIG SP 2022 เป็นปืนที่ตอบสนองความต้องการของตำรวจฝรั่งเศสได้อย่างดี

ในบางประเทศของยุโรปก็อาจยังมีใช้ปืนโครงเหล็กหรืออัลลอยด์อยู่บ้างแต่แนวโน้มก็ลดลงเรื่อยๆ อุปกรณ์ส่วนควบของปืน เช่น ไฟฉาย ซองปืน กลับพบว่าบริษัทของอเมริกาได้รับความนิยมสูงมาก บางหน่วยงานใช้ครูฝึกจากอเมริกามาช่วยสอนในบางทักษะ เช่น การยิงปืนในภาวะแสงต่ำ เป็นต้น

ผู้บริหารของหน่วยงานตำรวจยุโรปเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการฝึกตำรวจด้วยสิ่งที่เรียบง่ายมากขึ้น เช่น Paintballs, BB guns, FX Simunition เป็นต้น ซึ่งประชาชนมีการฝึกโดยจำลองสถานการณ์และใช้สิ่งเหล่านี้ซึ่งมีประสิทธิภาพดีทีเดียว แทนที่จะเสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับการสร้างอาคารฝึกยิงปืนในร่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอุปกรณ์ไฮเทค แต่กลับไม่มีงบประมาณเหลือให้ซื้อกระสุนสำหรับซ้อมยิงปืน

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าในอเมริกาหรือยุโรปยังคงให้ความสำคัญกับทักษะความชำนาญในการใช้อาวุธปืนมากที่สุด รองลงมาก็เป็นเรื่องของกระสุนปืน ประชาชนเองที่มีอาวุธปืนก็ควรฝึกฝนการใช้อาวุธปืนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”
                                                                       เรียบเรียงโดย Batman
                                           อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง European Police, Service Pistols ของ Stefan Perey

Friday, March 11, 2011

1911 Handling

1911 Handling

นาย Clint Smith พกปืนรุ่น 1911 มากว่า 40 ปี และเวลากว่า 99 เปอร์เซ็นต์ที่พกปืนในแต่ละวันเขาจะพกปืน 1911 แต่เขาจะบอกเหตุผลว่าทำไมคุณไม่ควรซื้อปืน 1911

ประการแรกปืนรุ่นนี้มีขนาดใหญ่ แน่นอนว่าปืนลำกล้องมาตรฐาน 5 นิ้ว (Full-size pistol) มีขนาดใหญ่ทีเดียว ความยาวทั้งกระบอกประมาณ 9 นิ้ว สูง 6 นิ้ว หนา 1 นิ้ว แต่อย่าลืมว่าปืนขนาดนี้เป็นปืนที่ดีที่สุดและมีความน่าเชื่อถือที่สุดในบรรดาปืนขนาดลำกล้องต่างๆ

มันหนักมั้ย ? ใช่มันหนัก แต่ปืนที่ทำจากเหล็กดีที่สุด มีอายุการใช้งานที่นานกว่าและทนทานกว่า ยิ่งใช้ตัว Buffer ซึ่งช่วยลดแรงกระแทกต่อโครงปืนขณะยิง ยิ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของปืนได้มาก นาย Clint Smith บอกว่าช่างปืนมักทำให้ปืน 1911 เสียหายมากกว่าการที่ปืนรุ่นนี้เสียหายจากการยิงเสียอีก

การใช้ Buffer นี้จะทำให้เมื่อยิงปืนจนกระสุนหมดแล้วสไลด์ถอยหลังเปิดค้าง เมื่อต้องการปิดสไลด์จะใช้วิธีดึงสไลด์ถอยหลังแล้วปล่อยให้เดินหน้าไม่ได้ มักต้องใช้ปุ่มปลดสไลด์แทน เพราะฉะนั้นอย่าซื้อปืน 1911 เพราะมันหนักและมีเรื่องจุกจิกเกี่ยวกับตัว Buffer

จำนวนกระสุนที่บรรจุได้ ปืนส่วนใหญ่มักสามารถบรรจุกระสุนในซองกระสุนได้ 7 นัด และอีกหนึ่งนัดในรังเพลิง เมื่อนาย Clint Smith เห็นปืน 1911 ของนักเรียนมีปัญหาในการป้อนกระสุน เขาจะถามก่อนเลยว่า เขาบรรจุกระสุนในซองกระสุนกี่นัด ปืน 1911 ซึ่งบรรจุ 7 นัดมีความน่าเชื่อถือในการป้อนกระสุนสูงมาก บางซองกระสุนอาจบรรจุได้ 8 นัดหรือ 10 นัด ซึ่งก็ยังทำงานได้ดีมากเช่นกัน แต่ถ้าคุณต้องการปืนซึ่งบรรจุกระสุนได้มากๆก็ควรซื้อปืน Glock มากกว่า เพราะฉะนั้นอย่าซื้อปืน 1911 เพราะมันบรรจุกระสุนในซองกระสุนได้ไม่มาก

ความน่าเชื่อถือในการทำงาน (Reliability) ปืน 1911 ทำงานได้ดีมาก ถึงแม้ว่าในสมัยก่อนปืนรุ่นนี้อาจต้องปรับแก้กันมากโดยช่างปืนกว่าจะใช้งานได้ดี แต่ปัจจุบันปืน 1911 ซึ่งผลิตจากโรงงานที่มีคุณภาพดีแทบไม่ต้องปรับแก่อะไรเลย เพราะฉะนั้นอย่าซื้อปืน 1911 เพราะมันอาจทำงานได้ไม่น่าเชื่อถือ

วิธีการถือปืน ใครก็ตามซึ่งไม่สามารถถือปืนโดยให้นิ้วโป้งอยู่เหนือคัน Safety ได้ก็ควรเปลี่ยนไปใช้ปืนชนิดอื่นเสียดีกว่า เพราะในภาวะตึงเครียดถ้าเราวางนิ้วโป้งไว้ใต้คัน Safety เราอาจเผลอกระแทกคัน Safety ขึ้นได้ในขณะที่ทำการยิงทำให้ไม่สามารถเหนี่ยวไกได้ ซึ่งอันตรายอย่างมากหากเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน

มีปืนบางรุ่นที่ใช้คัน Safety ที่เล็ก หากคุณใช้ปืนเช่นนี้ก็ต้องดูว่าเหมาะกับตัวคุณหรือไม่ เพราะเขาเคยเห็นคัน Safety แบบนี้มีปัญหาในขณะยิงมาแล้ว ดังนั้นถ้าคุณมีปัญหาในเรื่องการกำด้ามปืนอย่างเหมาะสมหรือคัน Safety ไม่เหมาะกับตัวคุณก็อาจหันไปใช้ปืน Glock แทนได้เพราะมันไม่มีคัน Safety

การกำด้ามปืนแบบ High hold โดยนิ้วโป้งมือขวาอยู่บนนิ้วโป้งมือซ้าย (กรณีที่ถนัดมือขวา) ต้องระวังนิ้วโป้งมือซ้ายไม่ให้โดนสไลด์ไม่เช่นนั้นอาจถูกสไลด์บาดได้

การกำด้ามปืนแบบ Cooper-style เนื่องจากนาย Jeff Cooper มีมือที่ใหญ่มาก จึงใช้นิ้วโป้งมือซ้ายชี้ขึ้นทับบนนิ้วโป้งมือขวา แต่อุ้มมือจะแนบชิดไปกับด้ามปืนด้านซ้ายอย่างมั่นคง ดังนั้นถ้าใครมือเล็กถือปืนแบบนี้โดยไม่เข้าใจว่าควรถืออย่างไรให้ถูกต้อง เวลายิงจะทำให้มือทั้งสองข้างเลื่อนหลุดออกจากกันขณะยิงปืน (Flips) จึงดูเหมือนว่ายิงปืน 1911 ลำกล้อง 5 นิ้วมีแรงถีบมากกว่าปกติ (สาเหตุมาจากการกำด้ามปืนไม่ถูกวิธี)

ถ้าเหตุผลต่างๆที่กล่าวมานี้มีผลต่อคุณในการยิงปืน 1911 ก็ควรเลือกปืนชนิดอื่นมากกว่า เช่น Glock, S&W M&P, Springfield Armory XDM เป็นต้น

แต่สำหรับนาย Clint Smith แล้ว เขายังคงไปสนามยิงปืนแล้วยิงปืน 1911 ของเขาต่อไป

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”
       
เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง No 1911 4 U, there are other choices โดย Clint Smith

Thursday, March 3, 2011

Accuracy VS. Precision



Accuracy VS. Precision

ความแม่นยำ (Accuracy) และ ความเที่ยงตรง (Precision) มีความหมายแตกต่างกันในแง่ของการยิงปืน

ความแม่นยำ (Accuracy)
หมายถึง ความสามารถยิงเป้าหมายได้ถูกตรงตำแหน่งที่เล็ง เรียกได้ว่า เล็งที่ไหนยิงถูกที่นั้น จึงจะถือได้ว่า “ยิงได้อย่างแม่นยำ” ซึ่งจะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องปรับศูนย์เล็งของปืนให้มีความแม่นยำเหมาะกับสายตาของผู้ยิงแต่ละคน และความแม่นยำนี้จะจำเพาะกับระยะของเป้าหมายที่ทำการตั้งศูนย์เล็งเท่านั้น หากเคลื่อนเป้าถ่อยห่างออกไปหรือเลื่อนเข้ามาจากระยะที่ทำการตั้งศูนย์เล็งเอาไว้ ความแม่นยำก็จะลดลงทันที (อ่านเพิ่มเติมในบทความเรื่อง Gun Aiming เมื่อ 10 Dec 09) ในการยิงปืนแข่งขันวัดความแม่นยำอย่างละเอียดจึงมักต้องตั้งศูนย์เล็งของปืนให้เหมาะสมกับระยะที่จะทำการยิงแข่งขัน

ความเที่ยงตรง (Precision)
หมายถึง ความสามารถยิงเป้าหมายแต่ละนัดได้กลุ่มกระสุนที่แคบไม่กระจายออกเป็นวงกว้าง แสดงถึงทักษะในการยิงปืนที่ดีซึ่งเป็นภาพรวมของทักษะทั้งหมด เช่น ท่ายืน สมดุลของร่างกาย การถือปืน การเล็ง การเหนี่ยวไก การควบคุมการหายใจ หากทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้ดีก็จะสามารถยิงปืนได้กลุ่มกระสุนที่แคบ หากกลุ่มกระสุนเหล่านั้นไม่ได้ถูกเป้าหมายตรงตำแหน่งที่เล็ง แสดงว่าศูนย์ปืนตั้งไม่ตรงกับจุดที่เล็งจึงต้องไปปรับแก้ที่ศูนย์ปืนหรือทำการเล็งแก้ไขหรือชดเชยเพื่อให้ตำบลกระสุนตกในตำแหน่งที่ถูกต้อง

ในการยิงปืนระบบต่อสู้นั้นความแม่นยำและความเที่ยงตรงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ถึงแม้อาจไม่มากเท่ากับนักกีฬายิงปืนแข่งขันที่ต้องฝึกอย่างมากมายเพื่อทำคะแนนให้ได้สูงๆ แต่การยิงปืนเพื่อป้องกันตัวนั้นเป็นการสร้างความสมดุลระหว่างความแม่นยำและความเที่ยงตรง

ส่วนใหญ่มักเป็นการยิงปืนระยะใกล้และต้องทำการยิงอย่างรวดเร็ว การเล็งจึงให้ความสำคัญกับศูนย์ปืนน้อยกว่าการยิงปืนแข่งขันทั่วไปมาก ขอเพียงให้สามารถส่งกระสุนไปยังเป้าหมายใน
“บริเวณที่ทำการเล็ง” ได้ก็ถือว่ายอมรับได้แล้ว ปกติเมื่อยิงแต่ละนัดเร็วขึ้นทั้งความแม่นยำและความเที่ยงตรงก็จะลดลง เมื่อฝึกฝนบ่อยขึ้นจนเกิดทักษะความชำนาญความแม่นยำและความเที่ยงตรงในการยิงแต่ละนัดก็จะดีขึ้น ดังนั้นแต่ละคนต้องรู้ว่าตนเองสามารถยิงปืนได้เร็วเท่าไรเพื่อให้ได้ความแม่นยำและความเที่ยงตรงที่ยอมรับได้

จำไว้ว่า “เราต้องยิงให้ถูกสิ่งที่เราต้องยิง” นั้นคือหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ที่ใช้อาวุธปืน เพื่อหลีกเลี่ยงการยิงพลาดเป้าไปถูกผู้บริสุทธิ์โดยไม่คาดหมาย

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”

                                                      เรียบเรียงโดย Batman

Newcastle limousines