Friday, December 23, 2011

Wheelguns for Personal Defense


Wheelguns for Personal Defense

ปืนลูกโม่ (Revolver) มีชื่อเล่นหลายชื่อ อาทิเช่น Wheelgun (เนื่องจากเวลายิง โม่จะหมุนเหมือนล้อ), Six gun (ปืนโครงปกติจะบรรจุกระสุนได้ 6 นัด ถึงแม้บางรุ่นจะบรรจุได้มากกว่าหรือน้อยกว่าแต่ก็ยังนิยมเรียกว่า Six gun)

นาย Clint Smith ซึ่งเป็นครูสอนยิงปืนที่มีชื่อเสียงของอเมริกา พบว่าบรรดาผู้รับการฝึกหลายคนรู้สึกแปลกใจที่เขาพกปืนลูกโม่เวลาออกไปสอน หลายคนถามเขาว่า “คุณใช้ปืนกระบอกนี้ (ปืนลูกโม่) จริงๆหรือ?” ด้วยความรู้สึกว่าเป็นปืนเก่าล้าสมัย

นาย Clint Smith มักอธิบายว่า เป็นความคิดที่โง่เขล่ามากที่คิดว่าปืนลูกโม่ไม่เหมาะสำหรับการป้องกันตัว ในความรู้สึกของคนทั่วไปคุณภาพของปืนที่ใช้เพื่อป้องกันตัวขึ้นกับจำนวนกระสุนที่สามารถบรรจุหรือพกติดตัวไปได้ ทั้งๆที่รู้ว่าในสถานการณ์จริงที่มีการศึกษามาพบว่าใช้กระสุนไม่มากเช่นนั้นก็ตาม

ปืนลูกโม่ที่จะใช้ในการป้องกันตัวไม่ควรมีโครงปืนใหญ่มากเกินไป เช่น ปืนขนาด .41 แม็กนั่ม, .44 แม็กนั่ม หรือขนาด .50 นิ้ว เป็นต้น (เขามักเรียกปืนขนาดเหล่านี้ว่า ปืนยิงไดโนเสาร์) เพราะปืนขนาดนี้น่าจะเหมาะกับคนที่ฝึกยิงปืนมาอย่างดีมากกว่า และเขาคงไม่พกปืนโครงใหญ่ขนาดนี้เป็นประจำอย่างแน่นอนถึงแม้จะหาปืนลำกล้องสั้นได้ก็ตาม

การบรรจุกระสุนของปืนลูกโม่ปัจจุบันก็มีเครื่องมือช่วยบรรจุหลากหลาย อาทิเช่น Speed strip, Speed loader, Jet loader เป็นต้น (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความเรื่อง Reload Equipments for Revolvers วันที่ 31 Mar 11) ทำให้ปัญหาในการบรรจุกระสุนด้วยมือที่ช้านั้นลดน้อยลง หลายคนถามเขาว่า “ปืนลูกโม่เป็นปืนที่ดีที่สุดหรือเปล่า?” เขาจะตอบว่า “ไม่ใช่... แต่ก็ไม่มีปืนแบบใดดีที่สุด”

นอกจากนั้นปืนลูกโม่ได้พิสูจน์ตัวเองมาอย่างยาวนานว่า เป็นปืนที่ช่วยชีวิตผู้บริสุทธิ์มามากมายอย่างไม่ต้องสงสัย

สำหรับนาย Nick Jacobillis อดีตนายตำรวจและนักเขียนเกี่ยวกับอาวุธปืนชื่อดัง คิดว่าปืนลูกโม่เป็นปืนที่ใช้งานง่าย มีความน่าเชื่อถือในการทำงานของปืนสูงมากและการดูแลรักษาปืนก็ง่าย ปัจจุบันกระสุนปืนลูกโม่มีการออกแบบดีขึ้นมาก (กระสุนหัวรู) จนมีความน่าเชื่อถือสูงไม่แพ้ปืนชนิดอื่นๆ

สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งพกปืนลูกโม่เพื่อใช้งานประจำ ควรพกปืนลูกโม่ 2 กระบอก (ปืนสำรอง) เพราะหากปืนหลักยิงจนกระสุนหมดอาจชักปืนสำรองออกมาใช้ได้ทันทีไม่ต้องมาคอยบรรจุกระสุนใหม่ เรียกวิธีนี้ว่า New York reload (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความเรื่อง Backup Gun วันที่ 18 Feb 09) แต่การฝึกบรรจุกระสุนด้วยอุปกรณ์ช่วยบรรจุทั้งหลายก็ยังมีความสำคัญและช่วยได้มากเช่นกัน เพราะไม่ใช่ทุกสถานการณ์จะต้องใช้ New York reload เสมอไป

นอกจากนั้นปืนลูกโม่สามารถปรับแก้ได้ง่าย เช่น เปลี่ยนด้ามจับให้เหมาะกับมือได้ง่ายกว่าปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ เป็นต้น

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของปืนดังที่กล่าวไปจึงถือได้ว่า ปืนลูกโม่ยังคงเป็นปืนที่เหมาะสมสำหรับการป้องกันตัวเองและทรัพย์สินที่บ้าน (Personal and home defense)

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”

                                                                                 เรียบเรียงโดย Batman
                                                อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง The Magic Wheel ของ Clint Smith และเรื่อง Revolvers ของ Nick Jacobillis

Tuesday, December 6, 2011

Shooting Range Rules

Shooting Range Rules

ได้มีโอกาสไปยิงปืนในหลายสนามและพบเห็นนักยิงปืนมือใหม่และมือเก่าหลายท่าน มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุปืนลั่นในสนามยิงปืน หากโชคดีอาจไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ถ้าโชคร้ายผลของความประมาทอาจเปลี่ยนชีวิตของท่านไปตลอดกาล

จึงขอกล่าวถึง “มารยาท” หรือจะเรียกว่า “กฎ” ในการเข้าใช้สนามยิงปืนที่ดี เพื่อให้ทุกท่านได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง จะทำให้การใช้สนามยิงปืนร่วมกับผู้อื่นมีความปลอดภัย และแสดงถึงจิตสำนึกที่ดีในการใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของการใช้อาวุธปืน

สิ่งแรกที่ต้องยึดถือปฏิบัติทุกครั้งที่จับปืน ก็คือ กฎเหล็ก 4 ข้อ ของ Jeff Cooper เรื่องความปลอดภัยในการใช้อาวุธปืน (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความเรื่อง Jeff Cooper’s Rules of Gun Safety วันที่ 10 June 09)

การนำปืนเข้าหรือออกจากสนามอาวุธปืนควรอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ในกรณีของปืนลูกโม่ไม่ควรมีกระสุนอยู่ในโม่ ส่วนปืนสั่นกึ่งอัตโนมัติควรแยกซองกระสุนออกจากตัวปืน และไม่มีกระสุนอยู่ในรังเพลิง หากต้องการถือปืนเดินเข้าไปในอาคารสนามยิงปืน หากเป็นปืนลูกโม่ก็ควรเปิดโม่ออกค้างไว้แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางเกี่ยวสะพานปืนเดินเข้าไป

ถ้าเป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติก็ปลดซองกระสุนออกและเปิดค้างสไลด์ไว้แล้วใช้นิ้วก้อยเกี่ยวโกรงไกปืน เป็นการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าปืนของเราปลอดภัย ซึ่งวิธีนี้ยังใช้ในกรณีที่เราส่งปืนให้ผู้อื่นด้วย (หากเรารับปืนมาจากคนอื่นก็ควรตรวจปืนซ้ำอีกครั้งฝึกให้เป็นนิสัย เพื่อให้แน่ใจว่าปืนปลอดภัย) แต่ถ้าใครนำปืนใส่ไว้ในกระเป๋าหรือกล่องใส่ปืนก็เพียงแค่ถือกระเป๋าหรือกล่องใส่ปืนเดินเข้าไปในสนามได้เลย

เมื่ออยู่ในสนามยิงปืนมักจะมีการแบ่งพื้นที่ด้านหน้าสำหรับนักยิงปืนซึ่งอยู่ในช่องยิงหรือแนวยิงกับด้านหลังสำหรับผู้ที่นั่งดู โดยผู้ที่อยู่ด้านหลังแนวยิงไม่ควรหยิบปืนออกมาเล่น เพราะจะเป็นที่หวาดเสียวสำหรับบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ด้านหน้าซึ่งแนวปืนจะชี้ไปหา สนามยิงปืนที่ดีจะจัดแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไว้ให้นักยิงปืนซึ่งยังไม่เข้าช่องยิง ได้นำปืนมาปรับแก้จะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

บางคนมีซองปืนพกนอกติดมาด้วยก็ควรตรวจปืนให้ปลอดภัยก่อนใส่ปืนในซอง โดยปืนลูกโม่ก็ตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีกระสุนตกค้างอยู่ในโม่ก่อน ถ้าเป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติก็ต้องเคลียปืนหรือตรวจปืนก่อน (กระชากสไลด์ 2 – 3 ครั้ง ตรวจดูในรังเพลิงว่าไม่มีกระสุนตกค้างอยู่ เหนี่ยวไกทิ้งหนึ่งครั้งไปยังทิศทางที่ปลอดภัย) แล้วเปิดค้างสไลด์ไว้ค่อยเสียบลงซองปืน

เมื่ออยู่ในช่องยิงหรือแนวยิงควรวางปืนบนโต๊ะด้านหน้าโดยหันปากกระบอกปืนออกไปข้างหน้าเสมอ (ไปยัง Backstop) ห้ามหันปากกระบอกปืนไปด้านข้างเด็จขาดโดยเฉพาะขณะบรรจุหรือเลิกบรรจุกระสุน หลายท่านมักหันปากกระบอกปืนไปด้านข้างเป็นที่น่าหวาดเสียวสำหรับคนที่อยู่ด้านข้างเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเรามักแนะนำให้ถอยเท้าขวาไปด้านหลังหนึ่งก้าว เพื่อบังคับให้แนวปากกระบอกปืนชี้ไปด้านหน้าตลอดเวลาขณะที่ทำการบรรจุหรือเลิกบรรจุกระสุนทุกครั้ง

ในการวางปืนที่โต๊ะถ้าเป็นปืนลูกโม่ให้เปิดโม่ออกแล้ววางเอาด้านข้างปืนลงบนโต๊ะ (ด้านตรงข้ามกับที่โม่เปิดออก) ไม่ควรวางปืนโดยใช้ปลายปากกระบอกปืน ปลายก้านคัดปลอกกระสุนและท้ายด้ามปืนตั้งปืนบนโต๊ะ ส่วนปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติให้วางปืนบนโต๊ะโดยหันช่องคายปลอกกระสุนขึ้นด้านบน

ระหว่างการยิงปืนหากได้รับสัญญาณให้วางปืน เช่น ขณะเปลี่ยนเป้าหรือติดเป้าซึ่งจะมีคนเดินเข้าไปภายในสนาม เราต้องวางปืนลงตามวิธีดังกล่าวข้างต้น แล้วถอยหลังออกมาจากโต๊ะหนึ่งก้าว ห้ามแตะต้องตัวปืนเด็จขาด ก่อนจะเริ่มทำการยิงใหม่ควรมองตรวจตราภายในสนามอีกครั้งว่าไม่มีคนอยู่เสมอ

ก่อนที่เราจะเดินลงไปภายในสนามเพื่อติดเป้าหรือเปลี่ยนเป้า ก็ต้องบอกนายสนามหรือผู้คุมสนามยิงปืนหรือตะโกนบอกช่องยิงอื่นๆให้ทราบว่า เราจะขอเข้าไปภายในสนามเพื่อเปลี่ยนเป้าหรือติดเป้า และต้องแน่ใจว่าทุกช่องยิงได้วางปืนบนโต๊ะแล้วก่อนเดินเข้าไปภายในสนาม

เมื่อยิงปืนเสร็จก็ให้ตรวจปืนอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าปืนของเราปลอดภัย แล้วถือปืนออกจากแนวยิงหรือช่องยิงอย่างถูกวิธี (สำหรับปืนลูกโม่ให้เปิดโม่แล้วเกี่ยวสะพานปืน ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติให้ปลดซองกระสุน ค้างสไลด์แล้วเกี่ยวโกรงไกปืน หรือใส่ซองปืนให้เรียบร้อย)

ไม่ควรเสพของมึนเมาหรือยาเสพติดอื่นใดในสนามยิงปืน

เหตุการณ์ปืนลั่นในสนามยิงปืนมักเกิดจากความประมาทเลินเล่อของนักยิงปืนไม่ว่าจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่ก็ตาม หลายครั้งจบลงด้วยความเศร้า หากไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้การใช้สนามยิงปืนอย่างถูกต้อง ถูกวิธี มีมารยาทที่ดี และเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งควรยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”
                                                                                                            เรียบเรียงโดย Batman

Newcastle limousines