Gun
VS. Knife
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีโอกาสร่วมสังเกตการณ์การฝึกอบรม
VIP
Protection จากอเมริกา
ซึ่งในการฝึกตอนหนึ่งนั้นครูฝึกได้บอกเล่าเหตุการณ์จริง
ที่นายตำรวจนอกเครื่องแบบท่านหนึ่งอยู่ในลิฟ ถูกคนร้ายปล้นและใช้มีดแทง
นายตำรวจท่านนั้นได้ป้องกันตัวด้วยการยกแขนซ้ายขึ้นกันและมือขวาชักปืนยิงสวนออกไปจึงรอดพ้นเหตุการณ์ร้ายออกมาได้
หลายท่านคงคิดว่ามีดจะไปสู้ปืนได้อย่างไร
แต่เมื่อมาวิเคราะห์กันแล้วนายตำรวจท่านนั้นถึงแม้จะมีปืนพกติดตัวอยู่แต่ก็ถือว่าโชคดีในหลายเรื่อง
อย่างแรกปืนนั้นพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา (ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติที่บรรจุกระสุนในรังเพลิง
และสามารถยิงได้ในจังหวะ Double action)
เพราะหากปืนที่พกอยู่ยังไม่พร้อมใช้งานได้ทันที
คงเป็นการยากที่จะเตรียมปืนให้พร้อมได้ทันในขณะที่เผชิญเหตุเช่นนั้น
อย่างที่สอง
คนร้ายไม่มีทักษะในการใช้อาวุธมีดที่ดีนัก เพราะอาวุธมีดหากอยู่ในมือของผู้เชี่ยวชาญ
(An
Expert Knife Fighter) แล้ว ระยะประชิดเช่นนั้นมีโอกาสน้อยมากที่จะหยุดอาวุธมีดลงได้
เพราะในการใช้มีดจะมีความไหลลื่นของการเคลื่อนไหวสูงมากทำให้ยากแก่การป้องกัน
หลายครั้งแม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบซึ่งพกอาวุธปืนไว้ตลอดเวลา
เมื่อเผชิญเหตุการณ์ร้ายเช่นนี้มักจะพยายามชักปืนออกมาให้เร็วที่สุดเพื่อหวังจะหยุดภัยคุกคามจากมีด
ซึ่งมันอาจสายเกินไป
มีหลักการง่ายๆซึ่งแนะนำสำหรับการเผชิญเหตุการณ์ร้ายอย่างฉับพลัน
เช่น การถูกฟันหรือแทงด้วยมีด ถูกตีด้วยไม้
ในขณะที่ยังไม่พร้อมที่จะตอบโต้ด้วยอาวุธประจำกายของเรา
-
ให้แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้านั้นก่อนที่จะคิดถึงการชักอาวุธของเราออกมาใช้
เนื่องจากการโจมตีเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเรายังไม่ได้เตรียมอาวุธสำหรับตอบโต้
หากเราคิดแต่จะพยายามชักอาวุธของเราออกมาไม่ว่าจะเป็นปืนหรือมีดมันอาจสายเกินไป
เพราะหากเราถูกฟัน
แทงหรือตีในตำแหน่งที่สำคัญเราอาจไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้กลับไปได้ ดังนั้นควรแก้ไขการโจมตีนั้นให้ปลอดภัยก่อนด้วยวิธีการต่างๆ
เช่น หลบหลีก ป้อง ปัด ปิด เปิด เป็นต้น
-
Distance is always your friend ระยะห่างเป็นเพื่อนของเราเสมอ
อาวุธต่างๆมีระยะในการใช้งานที่ได้ผลดีที่สุดและด้อยที่สุด
โดยส่วนใหญ่ยิ่งเราอยู่ห่างจากภัยคุกคามมากเท่าไรก็จะยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น
เมื่อเราถูกโจมตีด้วยมีดหรือไม้หากเราสามารถถอยห่างออกมาจากระยะของอาวุธเหล่านั้นได้ก็จะปลอดภัย
นอกจากนั้นหลังจากที่เราทำการหลบหลีก ป้อง ปัด ปิดหรือเปิดการโจมตีอย่างฉับพลันนั้นแล้ว
ก็ให้รีบถอยห่างออกมาหรือผลักคนร้ายให้ห่างออกไป
เพื่อสร้างระยะสร้างเวลาให้เราตั้งตัวเตรียมตอบโต้กลับด้วยอาวุธของเราได้
-
เคลื่อนไหวตลอดเวลา
การไม่เป็นเป้านิ่งทำให้ถูกทำร้ายได้ยากขึ้น ควรเคลื่อนที่อย่างน้อย 3
ฟุตต่อวินาที
-
หลีกเลี่ยงการนอนต่อสู้บนพื้น
(Ground
fighting) เพราะจะจำกัดการเคลื่อนไหวและเคลื่อนที่ของเรา
จึงมีโอกาสถูกทำร้ายได้ง่ายกว่า
สำหรับประชาชนทั่วไปแล้วการเรียนรู้วิธีการแก้ไขเหตุการณ์ร้ายอย่างฉับพลันเช่นนี้ก็ถือว่าสำคัญเช่นกัน
สามารถใช้หลักการเบื้องต้นและพยายามมองหาสิ่งของรอบตัวนำมาปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการเอาตัวรอด
สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี
“สติ”
เรียบเรียงโดย
Batman
No comments:
Post a Comment