Friday, June 11, 2010

Finger on the Trigger VS. off the Trigger

Finger on Trigger VS. off Trigger



แต่ก่อนนั้นเมื่อเข้าสู่สถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้อาวุธปืน จะได้รับคำแนะนำให้เอานิ้วเข้าโกร่งไกสัมผัสกับไกปืน (Finger on the Trigger) เพื่อเตรียมพร้อมที่จะยิงได้ตลอดเวลา ในปัจจุบันเราแนะนำให้เอานิ้วออกนอกโกร่งไก (Finger off the Trigger) โดยนิ้วชี้เหยียดยาวชิดโครงปืน จนกว่าจะเห็นและเล็งปืนไปยังเป้าหมายแล้วเท่านั้นจึงจะเอานิ้วสัมผัสไกปืนได้


คำแนะนำที่เปลี่ยนไปนี้เนื่องมาจากเหตุการณ์น่าเศร้าจากการที่เอานิ้วเข้าโกร่งไกตลอดเวลาเมื่อเผชิญเหตุ มีผู้บริสุทธิ์หลายคน หรือคนร้ายที่ไม่มีอาวุธถูกฆ่าหรือพิการจากการที่ปืนลั่นออกไปโดยไม่ตั้งใจ มีคดีขึ้นศาลจำนวนมากหลายคนต้องกลายเป็นฆาตกรโดยไม่ตั้งใจ สูญเสียอาชีพ ต้องติดคุกติดตะรางจากความผิดพลาดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น


นักสรีรวิทยานาย Roger Enoka เคยแสดงให้เห็นว่า สามารถเกิดการยิงโดยไม่ตั้งใจได้หลายกรณีจากการที่นิ้วสัมผัสไกปืนตลอดเวลา เช่น


Inter-limb response: เมื่อมือหนึ่งกำแน่นขึ้น มืออีกข้างก็จะมีปฏิกิริยาที่จะกำแน่นขึ้นเช่นกัน ดังนั้นเมื่อถือปืนสองมือหากกำมือข้างที่คอยพยุงปืน แนวโน้มที่มือข้างที่กำปืนก็จะกำแน่นขึ้นยังผลให้นิ้วชี้ที่สัมผัสไกปืนจะขยับเข้ามาทำให้ปืนลั่นออกไปได้โดยไม่ตั้งใจ


Startle response: กล้ามเนื้อกลุ่มที่ใช้ในการงอนิ้วมือ (Flexor muscles) จะทำงานเมื่อมีอะไรมาทำให้เราตื่นเต้นมากๆ ตกใจหรือสะดุ้ง ดังนั้นหากนิ้วอยู่ที่ไกปืนเมื่อเราสะดุ้งตกใจด้วยเหตุใดก็ตาม มีแนวโน้มที่จะเหนี่ยวไกโดยไม่ตั้งใจ


Postural disturbance: เมื่อร่างกายเสียสมดุลย์ เช่น ลื่นหรือหกล้มเราจะกำมือโดยธรรมชาติ ซึ่งอาจทำให้ปืนลั่นโดยไม่ตั้งใจจากนิ้วซึ่งสัมผัสอยู่ที่ไกปืนตลอดเวลา


แล้วเราต้องเสียอะไรไปบ้างหากเราวางนิ้วชิดโครงปืนและอยู่นอกโกร่งไกปืน นั้นก็คือ “เวลาในการเริ่มยิง” นั้นเอง แล้วมันมากน้อยแค่ไหน


อดีดครูฝึกทหารนาม Manny Kapelsohn เคยพิสูจน์เมื่อหลายปีก่อนว่า เวลาที่เสียไปนั้นเล็กน้อยมาก เมื่อเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ตำรวจเกษียณนาม Lance Biddle ปัจจุบันอยู่ในสมาคม IDPA (International Defensive Pistol Association) ของอเมริกา ได้ทำการพิสูจน์อีกครั้งเมื่อมีนักเรียนตำรวจซึ่งเพิ่งจบการศึกษาจากสองสถาบันต่างกัน พวกเขาถูกสอนให้เอานิ้วเข้าโกร่งไกสัมผัสกับไกปืนตลอดเวลาเมื่อเผชิญเหตุ


นาย Biddle ได้จัดการแข่งขันยิงปืนขึ้นครั้งหนึ่ง (มีผู้เข้าแข่งขั้นทั้งหมด 22 คน) โดยให้ผู้เข้าแข่งขันครึ่งหนึ่งต้องเอานิ้วอยู่นอกโกร่งไกและอีกครึ่งหนึ่งเอานิ้วสัมผัสไกปืนตลอดเวลาก่อนเริ่มยิง โดยมีสองเป้าหมายๆแรกต้องยิงที่ศีรษะในระยะ 5 ฟุต และเป้าหมายที่สองยิงที่ลำตัวในระยะ 15 ฟุต โดยจับเวลาด้วยเครื่องจับเวลาอิเล็กโทรนิค และให้เริ่มยิงหลังได้ยินสัญญาณเสียง “บี๊บ”


พบว่า การยิงเป้าหมายที่ศีรษะนั้น เวลาเฉลี่ยที่เริ่มต้นยิงหนึ่งนัดอยู่ที่ 0.437 วินาที เมื่อนิ้วสัมผัสไกปืนตลอดเวลา (เร็วสุดอยู่ที่ 0.21 วินาทีและช้าสุดอยู่ที่ 1.24 วินาที) ในขณะที่เมื่อนิ้วอยู่นอกโกร่งไกเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.732 วินาที (เร็วสุดอยู่ที่ 0.26 วินาทีและช้าสุดอยู่ที่ 1.69 วินาที) เวลาที่แตกต่างกันเพียง 0.295 วินาที หรือ น้อยกว่าหนึ่งในสามของวินาทีเสียอีก


เมื่อทำการยิงเป้าหมายบริเวณลำตัวพบว่า เวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.457 วินาที เมื่อนิ้วสัมผัสไกปืนตลอดเวลา (เร็วสุดอยู่ที่ 0.22 วินาทีและช้าสุดอยู่ที่ 1.67 วินาที) ในขณะที่เมื่อนิ้วอยู่นอกโกร่งไกเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.554 วินาที (เร็วสุดอยู่ที่ 0.29 วินาทีและช้าสุดอยู่ที่ 1.10 วินาที) เวลาที่แตกต่างกันเพียง 0.096 วินาที หรือ น้อยกว่าหนึ่งในสิบของวินาที


การศึกษานี้ยืนยันอีกครั้งได้ว่าเวลาที่เสียไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเทียบกับประโยชน์มากมายจากการเอานิ้วออกนอกโกร่งไกปืนก่อนทำการยิง


TAS สอนให้เอานิ้วออกนอกโกร่งไกปืนตลอดเวลา จนกว่าปืนจะชี้ไปยังเป้าหมายและต้องการทำการยิงแล้วเท่านั้นจึงจะให้นิ้วเข้าโกร่งไกเพื่อสัมผัสกับไกปืนได้


สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”
 





เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง Off Fingers and Triggers ของ Massab Ayoob

No comments:


Newcastle limousines