Tuesday, December 6, 2011

Shooting Range Rules

Shooting Range Rules

ได้มีโอกาสไปยิงปืนในหลายสนามและพบเห็นนักยิงปืนมือใหม่และมือเก่าหลายท่าน มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุปืนลั่นในสนามยิงปืน หากโชคดีอาจไม่มีใครได้รับอันตราย แต่ถ้าโชคร้ายผลของความประมาทอาจเปลี่ยนชีวิตของท่านไปตลอดกาล

จึงขอกล่าวถึง “มารยาท” หรือจะเรียกว่า “กฎ” ในการเข้าใช้สนามยิงปืนที่ดี เพื่อให้ทุกท่านได้ปฏิบัติอย่างถูกต้อง จะทำให้การใช้สนามยิงปืนร่วมกับผู้อื่นมีความปลอดภัย และแสดงถึงจิตสำนึกที่ดีในการใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของการใช้อาวุธปืน

สิ่งแรกที่ต้องยึดถือปฏิบัติทุกครั้งที่จับปืน ก็คือ กฎเหล็ก 4 ข้อ ของ Jeff Cooper เรื่องความปลอดภัยในการใช้อาวุธปืน (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความเรื่อง Jeff Cooper’s Rules of Gun Safety วันที่ 10 June 09)

การนำปืนเข้าหรือออกจากสนามอาวุธปืนควรอยู่ในสภาพที่ปลอดภัย ในกรณีของปืนลูกโม่ไม่ควรมีกระสุนอยู่ในโม่ ส่วนปืนสั่นกึ่งอัตโนมัติควรแยกซองกระสุนออกจากตัวปืน และไม่มีกระสุนอยู่ในรังเพลิง หากต้องการถือปืนเดินเข้าไปในอาคารสนามยิงปืน หากเป็นปืนลูกโม่ก็ควรเปิดโม่ออกค้างไว้แล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางเกี่ยวสะพานปืนเดินเข้าไป

ถ้าเป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติก็ปลดซองกระสุนออกและเปิดค้างสไลด์ไว้แล้วใช้นิ้วก้อยเกี่ยวโกรงไกปืน เป็นการแสดงให้ทุกคนเห็นว่าปืนของเราปลอดภัย ซึ่งวิธีนี้ยังใช้ในกรณีที่เราส่งปืนให้ผู้อื่นด้วย (หากเรารับปืนมาจากคนอื่นก็ควรตรวจปืนซ้ำอีกครั้งฝึกให้เป็นนิสัย เพื่อให้แน่ใจว่าปืนปลอดภัย) แต่ถ้าใครนำปืนใส่ไว้ในกระเป๋าหรือกล่องใส่ปืนก็เพียงแค่ถือกระเป๋าหรือกล่องใส่ปืนเดินเข้าไปในสนามได้เลย

เมื่ออยู่ในสนามยิงปืนมักจะมีการแบ่งพื้นที่ด้านหน้าสำหรับนักยิงปืนซึ่งอยู่ในช่องยิงหรือแนวยิงกับด้านหลังสำหรับผู้ที่นั่งดู โดยผู้ที่อยู่ด้านหลังแนวยิงไม่ควรหยิบปืนออกมาเล่น เพราะจะเป็นที่หวาดเสียวสำหรับบุคคลทั่วไปโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ด้านหน้าซึ่งแนวปืนจะชี้ไปหา สนามยิงปืนที่ดีจะจัดแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไว้ให้นักยิงปืนซึ่งยังไม่เข้าช่องยิง ได้นำปืนมาปรับแก้จะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น

บางคนมีซองปืนพกนอกติดมาด้วยก็ควรตรวจปืนให้ปลอดภัยก่อนใส่ปืนในซอง โดยปืนลูกโม่ก็ตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มีกระสุนตกค้างอยู่ในโม่ก่อน ถ้าเป็นปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติก็ต้องเคลียปืนหรือตรวจปืนก่อน (กระชากสไลด์ 2 – 3 ครั้ง ตรวจดูในรังเพลิงว่าไม่มีกระสุนตกค้างอยู่ เหนี่ยวไกทิ้งหนึ่งครั้งไปยังทิศทางที่ปลอดภัย) แล้วเปิดค้างสไลด์ไว้ค่อยเสียบลงซองปืน

เมื่ออยู่ในช่องยิงหรือแนวยิงควรวางปืนบนโต๊ะด้านหน้าโดยหันปากกระบอกปืนออกไปข้างหน้าเสมอ (ไปยัง Backstop) ห้ามหันปากกระบอกปืนไปด้านข้างเด็จขาดโดยเฉพาะขณะบรรจุหรือเลิกบรรจุกระสุน หลายท่านมักหันปากกระบอกปืนไปด้านข้างเป็นที่น่าหวาดเสียวสำหรับคนที่อยู่ด้านข้างเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเรามักแนะนำให้ถอยเท้าขวาไปด้านหลังหนึ่งก้าว เพื่อบังคับให้แนวปากกระบอกปืนชี้ไปด้านหน้าตลอดเวลาขณะที่ทำการบรรจุหรือเลิกบรรจุกระสุนทุกครั้ง

ในการวางปืนที่โต๊ะถ้าเป็นปืนลูกโม่ให้เปิดโม่ออกแล้ววางเอาด้านข้างปืนลงบนโต๊ะ (ด้านตรงข้ามกับที่โม่เปิดออก) ไม่ควรวางปืนโดยใช้ปลายปากกระบอกปืน ปลายก้านคัดปลอกกระสุนและท้ายด้ามปืนตั้งปืนบนโต๊ะ ส่วนปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติให้วางปืนบนโต๊ะโดยหันช่องคายปลอกกระสุนขึ้นด้านบน

ระหว่างการยิงปืนหากได้รับสัญญาณให้วางปืน เช่น ขณะเปลี่ยนเป้าหรือติดเป้าซึ่งจะมีคนเดินเข้าไปภายในสนาม เราต้องวางปืนลงตามวิธีดังกล่าวข้างต้น แล้วถอยหลังออกมาจากโต๊ะหนึ่งก้าว ห้ามแตะต้องตัวปืนเด็จขาด ก่อนจะเริ่มทำการยิงใหม่ควรมองตรวจตราภายในสนามอีกครั้งว่าไม่มีคนอยู่เสมอ

ก่อนที่เราจะเดินลงไปภายในสนามเพื่อติดเป้าหรือเปลี่ยนเป้า ก็ต้องบอกนายสนามหรือผู้คุมสนามยิงปืนหรือตะโกนบอกช่องยิงอื่นๆให้ทราบว่า เราจะขอเข้าไปภายในสนามเพื่อเปลี่ยนเป้าหรือติดเป้า และต้องแน่ใจว่าทุกช่องยิงได้วางปืนบนโต๊ะแล้วก่อนเดินเข้าไปภายในสนาม

เมื่อยิงปืนเสร็จก็ให้ตรวจปืนอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าปืนของเราปลอดภัย แล้วถือปืนออกจากแนวยิงหรือช่องยิงอย่างถูกวิธี (สำหรับปืนลูกโม่ให้เปิดโม่แล้วเกี่ยวสะพานปืน ปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติให้ปลดซองกระสุน ค้างสไลด์แล้วเกี่ยวโกรงไกปืน หรือใส่ซองปืนให้เรียบร้อย)

ไม่ควรเสพของมึนเมาหรือยาเสพติดอื่นใดในสนามยิงปืน

เหตุการณ์ปืนลั่นในสนามยิงปืนมักเกิดจากความประมาทเลินเล่อของนักยิงปืนไม่ว่าจะเป็นมือเก่าหรือมือใหม่ก็ตาม หลายครั้งจบลงด้วยความเศร้า หากไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้การใช้สนามยิงปืนอย่างถูกต้อง ถูกวิธี มีมารยาทที่ดี และเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งควรยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”
                                                                                                            เรียบเรียงโดย Batman

No comments:


Newcastle limousines