Friday, February 13, 2009

Room Clearing


Room Clearing

จากบทความเรื่อง Cleaning House ของนาย Doug Larson กล่าวถึงแทคติกที่สอนใน Scottsdale Gun Club ซึ่งเป็นชมรมสอนยิงปืนแห่งหนึ่งในรัฐอริโซน่าของสหรัฐอเมริกา ชมรมยิงปืนแห่งนี้ไม่ธรรมดานะครับ ขนาดมีสนามยิงปืนในร่มติดเครื่องปรับอากาศ 36 ช่องยิง (ระยะยิง 25 หลา) โดยใช้ Mancom target systems (เป็นระบบจัดการช่องยิงและควบคุมเป้าชนิดหนึ่ง) มีห้องเรียน และบ้าน 2 หลังสำหรับใช้จำลองสถานการณ์ (ผนังภายในบ้านสามารถเลื่อนเพื่อปรับเปลี่ยนแผนผังภายในบ้านได้) มีร้านขายอาวุธปืนรวมทั้งอุปกรณ์เสริมอยู่ภายในชมรมนี้ด้วย

มีหลักสูตรหนึ่งชื่อ Dynamic structure clearing class ซึ่งสอนเกี่ยวกับวิธีการเข้าตรวจค้นห้องหรืออาคารโดยหลักสูตรนี้แบ่งเป็น 3 ส่วน มีการสอนภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ ซึ่งการฝึกในภาคสนามได้มีการจำลองสถานการณ์โดยให้นักเรียนบางส่วนและครูฝึกแสดงตัวเป็นคนร้ายและใช้กระสุนสีซึ่งยิงจากปืนจริงได้ (เป็นกระสุนที่ทำมาพิเศษเพื่อใช้ในการฝึก ผู้รับการฝึกต้องใส่เครื่องป้องกันตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าและปืนต้องมีการดัดแปลงเล็กน้อยเพื่อให้ยิงกระสุนพวกนี้ได้)

หัวหน้าครูฝึกในหลักสูตรนี้คือนาย Paul Smith อดีตนาวิกโยธิน และเคยอยู่ในหน่วย SWAT อีกทั้งเคยทำงานเป็นผู้คุ้มกันบุคคลสำคัญ เขาได้ให้ข้อคิดเห็นและแทคติกที่น่าสนใจไม่น้อย

โดยปกติการเข้าตรวจค้นอาคารที่มีศัตรูอยู่ภายในเป็น “สิ่งที่ไม่แนะนำอย่างยิ่ง” ยกเว้นว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เช่นจำเป็นต้องเข้าไปช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวจากเงื้อมมือของคนร้ายซึ่งบุกเข้ามาในบ้านหรือในห้องนอน การฝึกอบรมจากหลักสูตรเหล่านี้จะเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการปฏิบัติการ แต่กระนั้นก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ดี


เริ่มด้วยการเรียนรู้การถือปืนด้วยท่าที่สามารถใช้อาวุธได้อย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ง่ายที่จะถูกปลดอาวุธ (น่าจะเป็นท่า High compressed ready position ซึ่งสอนตั้งแต่ TAS force 1 แล้ว) ฝึกการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ข้างหลัง ช้าและเร็วโดยไม่ละสายตาจากเป้าหมาย อีกทั้งระวังการทำให้เกิดเสียงขณะเคลื่อนที่ซึ่งอาจทำให้ผู้บุกรุกรู้ตำแหน่งที่อยู่ของคุณ

ถ้าการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ อาจใช้วิธี Groucho technique (งอเข่าเล็กน้อยและก้าวเดินไปข้างหน้าโดยลงส้นเท้าก่อนปลายเท้า สลับไปซ้าย-ขวา) แต่ถ้าต้องการเคลื่อนที่ช้าๆ คุณ Smith ไม่แนะนำให้เดินไขว้เท้าแต่ให้เดินโดยเท้าข้างหนึ่งนำแล้วเท้าอีกข้างเลื่อนตามมา เพื่อให้มีความมั่นคงในการยิงปืนได้ตลอดเวลาขณะเคลื่อนที่

ภายในบ้านผู้บุกรุกอาจมีหลายคน ดังนั้นเราต้องมองหาภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ สังเกตสิ่งผิดปกติภายในบ้านหรือห้องที่เรากำลังตรวจสอบ เช่น สังเกตความผิดปกติของแสงและเงา สีหรือเสียง อีกทั้งเราเองก็ไม่ควรเปิดเผยตัวเองในผู้บุกรุกรู้ตำแหน่งของเราด้วยเช่นกัน
เรียนรู้ความแตกต่างระหว่างการปกปิดกับการซ่อนเร้น และใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ในบ้านของคุณเอง


เมื่อมาถึงประตูที่เปิดอยู่และเราจำเป็นต้องผ่านเข้าไปข้างในเพื่อช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัว อาจใช้วิธี Slice the pie ซึ่งเป็นวิธีที่เราสามารถมองเห็นพื้นที่ภายในห้องได้เพิ่มขึ้นทีละเล็กน้อยโดยเราไม่เปิดเผยตัวเองมากเกินไป (วิธีนี้คงมีสอนในระดับ TAS force 3) แต่ถ้าเราไม่มีเวลาที่จะทำวิธีนี้เนื่องจากคุณต้องเข้าไปช่วยสมาชิกในบ้านทันที ก็ให้ใช้วิธีเตรียมพร้อมที่จะพุ่งผ่านประตูเข้าไปอย่างรวดเร็วไม่ให้ผู้บุกรุกภายในห้องตั้งตัวได้ทันที่จะเล็งปืนและยิงมาที่เรา เมื่อผ่านเข้าไปในห้องให้หยุดสักครู่แล้วรีบมองไปทั่วห้องอย่างรวดเร็ว ฟังเสียงและประเมินภัยคุกคามที่อาจปรากฏขึ้น ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้เริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าตามวิธี Groucho technique

การฝึกระดับต่อไปเป็นการฝึกโดยมีคู่หูช่วยอีกแรง (การเคลื่อนที่เข้าตรวจค้นในห้องหรืออาคารเป็นคู่) ร่วมกับการยิงด้วยกระสุนสี ปกติคนทั่วไปมักคิดว่าการฝึกนี้เหมาะกับตำรวจหรือทหารเท่านั้น แต่สำหรับคุณ Smith แล้วกลับคิดว่ามันสำคัญอย่างยิ่งที่ประชาชนควรจะฝึกและเรียนรู้วิธีนี้ด้วยเช่นกัน โดยคู่หูของคุณอาจเป็นภรรยาซึ่งสามารถช่วยคุณอีกแรงเพื่อนำสมาชิกในครอบครัวออกมาจากห้องซึ่งมีผู้บุกรุกอยู่ได้อย่างปลอดภัย

ทั้งสองคนต้องเคลื่อนที่ได้อย่างสอดคล้องเหมือนเป็นทีมเดียวกัน โดยคนแรกทำหน้าที่ Slice the pie บริเวณประตูทางเข้าห้องเพื่อมองหาภัยคุกคามภายในห้อง อีกคนก็ทำหน้าที่คอยคุ้มกันอยู่ด้านหลังเมื่อคุณผ่านเข้าประตูเผื่อมีภัยคุกคามปรากฏขึ้นมา เรียนรู้การสื่อสารกันระหว่างคู่หู

การทำงานเป็นคู่นั้นกำหนดให้คนที่อยู่ข้างหน้าเป็นเบอร์หนึ่ง คนที่ตามหลังเป็นเบอร์สองโดยเบอร์หนึ่งอยู่ข้างขวาเสมอ หน้าที่ของเบอร์สองคือคุ้มกันพื้นที่ๆเบอร์หนึ่งไม่สามารถดูแลได้ (เบอร์สองอาจกลายเป็นเบอร์หนึ่งเมื่อสถานการณ์หรือผังห้องเปลี่ยนไป) ที่สำคัญห้ามเล็งปืนไปที่คู่หูที่อยู่ข้างหน้าคุณแม้ว่าภัยคุกคามจะมาจากข้างหน้าก็ตาม (สาเหตุมากกว่าครึ่งเกิดจากการทำร้ายกันเองของคู่หูในทีม)


นอกจากการตรวจดูมุมห้อง หลังห้อง ข้างใต้และรอบๆเฟอนิเจอร์แล้วควรตรวจดูข้างในตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของที่อยู่สูงด้วย

ถ้าคุณไม่จำเป็นต้องเข้าไปตรวจในห้องที่สงสัยว่าจะมีผู้บุกรุกอยู่ ก็ “จงอย่าเข้าไป” หลีกเลี่ยงการต่อสู้ด้วยอาวุธปืนเป็นดีที่สุด เพราะในสถานการณ์ที่ตึงเครียดอาจทำให้เราลืมสิ่งที่ได้เรียนรู้มาก็ได้ เช่น ครูฝึกเองเคยทำการตรวจดูในห้องด้วยวิธี Quick peek (สอนใน TAS force 3 เช่นกัน) แล้วเกือบถูกยิงที่ศีรษะ ดังนั้นการฝึกในสถานการณ์จำลองเสมือนจริงจึงมีประโยชน์อย่างยิ่ง

สำหรับ TAS แล้วมีการฝึกสอนการเข้าตรวจค้นในห้องด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากมีวิธี Slice the pie, Quick peek แล้วก็ยังมีวิธีอื่นอีกซึ่งเราสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของสถานการณ์

ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าหากไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าตรวจค้นห้องที่สงสัยว่าจะมีผู้บุกรุกอยู่ “ก็จงอย่าเข้าไป” ถ้าผู้บุกรุกเข้ามาหวังเพียงทรัพย์สินก็ปล่อยให้เขาไปดีกว่าเอาชีวิตของเราเข้าไปเสี่ยง โทรเรียกตำรวจหาความช่วยเหลือ แต่ถ้าชีวิตของสมาชิกในครอบครัวตกอยู่ในอันตรายก็คงจำเป็นต้องทำโดยอาศัยทักษะความรู้ที่ได้รับการฝึกฝนมา (การฝึกฝนบ่อยๆจะยิ่งทำให้เกิด "ทักษะ"และลดความผิดพลาดลง)

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”

เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาจาก gun and ammo magazine

1 comment:

Anonymous said...

อยากทราบว่า ตอนนี้ปืน.38 ขนาด 3 นิ้ว ราคาเท่าไรครับ

khai_island@hotmail.com ตอบกลับเมล์นี้ด้วยครับ


Newcastle limousines