Sunday, July 31, 2016



Laser  Ammo

การฝึกซ้อมยิงแห้งหรือที่เราเรียกว่า Dry Fire เป็นสิ่งที่ทำให้เราเพิ่มทักษะการยิงปืนได้โดยไม่ต้องไปที่สนามยิงปืน ทำให้เราประหยัดทั้งเงินและเวลา ถึงแม้อุปกรณ์การฝึก Dry Fire บางชิ้นอาจมีราคาแพงแต่โดยรวมก็จะประหยัดกว่าการไปยิงปืนที่สนาม นอกจากนั้นเราสามารถฝึกยิงได้ที่บ้านหรือสถานที่ที่ไม่อนุญาติให้ฝึกยิงปืนได้

อุปกรณ์สำคัญที่ช่วยในการฝึก Dry Fire ส่วนใหญ่เป็นกระสุนปลอมซึ่งมีลักษณะคล้ายกระสุนจริง มีแผ่นรองเข็มแทงฉนวนที่ท้ายกระสุนเพื่อรองรับการกระแทกจากเข็มแทงฉนวนเป็นการยืดอายุเข็มแทงฉนวน ข้อจำกัดของกระสุนฝึก Dry Fire ทั่วไป คือ ไม่รู้ว่าแนวปืนหรือหากยิงแล้วกระสุนไปตกที่ตำแหน่งไหน ดังนั้นปัจจุบันมีการผลิตกระสุนเลเซอร์ หรือที่เรียกว่า Laser Ammo ช่วยในการฝึกยิง Dry Fire

Laser Ammo มีหลายแบบ หลายยี่ห้อ ขึ้นกับขนาดของลำกล้องปืนและชนิดของปืน ไม่ว่าจะเป็นปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ปืนลูกโม่ ปืนลูกซองหรือปืนไรเฟิ่ล นอกจากนั้นมีการผลิตเป้าหมายสำหรับฝึกยิงกับกระสุนเลเซอร์โดยเฉพาะ

สำหรับในไทยอาจหากระสุนแบบนี้ได้ไม่ง่ายนักและไม่จำเป็นต้องขวนขวายหามาใช้ให้ได้ ขอเพียงใช้สิ่งที่เรามีอยู่ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุดก็พอ

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”



                                                            เรียบเรียงโดย Batman

Sunday, July 3, 2016

Tactical Targets


Tactical Targets

เป้าซ้อมยิงปืนมีหลายแบบโดยทั่วไปที่เห็นและนิยมใช้กันมากก็คือ เป้ากระดาษ โดยอาจเป็นเป้าวงกลมดำ (Bull Eye Target) นิยมใช้ในการแข่งขันยิงปืนเพื่อทดสอบความแม่นยำเพราะมีคะแนนแบ่งเป็นส่วนๆชัดเจน ส่วนกระสุนที่ใช้นิยมจะเป็นกระสุนซ้อมแบบ Lead Wad Cutter สำหรับปืนลูกโม่และ Lead Semi Wad Cutter สำหรับปืนพกกึ่งอัตโนมัติเพราะราคาถูกและเมื่อยิงถูกเป้ากระดาษทำให้เกิดรูกระสุนซึ่งมีขอบเรียบจึงให้คะแนนง่าย หากใช้กระสุนจริงที่เป็น Lead Round Nose ขอบกระดาษของรูกระสุนจะไม่เรียบทำให้บางครั้งให้คะแนนยากหากกระสุนอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างคะแนนสูงกับต่ำจึงไม่นิยม

ส่วนเป้าหุ่นคน (Silhouette Target) นิยมใช้ในการยิงแบบยุทธวิธีหรือ Tactical Shooting โดยเราแนะนำให้ยิงเป้าใหญ่ของลำตัวคนหรือบริเวณหน้าอกและศีรษะหากต้องการเล็งเป้าเล็ก โดยเป้าหุ่นคนมีการออกแบบที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นภาพขาวดำหรือภาพสี ในภาวะสงครามบางประเทศก็มีการออกแบบภาพให้เหมือนกับศัตรูของพวกเขา นอกจากนั้นเพื่อความสนุกสนานก็มีการออกแบบภาพเป้าหมายเป็นผีดิบซอมบี่ตามยุคสมัยที่คนนิยม

สำหรับคนที่ฝึกยิงปืนแบบ Tactical ไม่ได้หมายความว่าจะใช้เป้าวงกลมดำไม่ได้ เพราะความแม่นยำก็เป็นหนึ่งในทักษะที่ผู้ใช้อาวุธปืนทุกคนต้องมี ดังนั้นการใช้เป้าวงกลมดำเพื่อฝึกยิงปืนก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญ หลายครั้งเราอาจปรับเป้าหุ่นคนโดยเพิ่มสัญญาลักษณ์หรือรูปเป้าที่ใช้ฝึกเรื่องความแม่นยำเข้าไปได้

นอกจากนั้นยังมีเป้าแผ่นเหล็กซึ่งนำมาใช้ซ้อมยิงได้หลายครั้ง มีหลายรูปร่าง บางครั้งมีลักษณะคล้ายคนก็มี มีประโยชน์ที่ทุกครั้งที่ยิงถูกเป้าหมายจะได้ยินเสียงกระสุนกระทบแผ่นเหล็กด้วย ซึ่งเป้ากระดาษเราจะไม่ได้ยินเมื่อกระสุนถูกเป้าหมาย หลายครั้งมีการนำเป้าแผ่นเหล็กมาปรับให้มีการเคลื่อนที่ในลักษณะต่างๆเพื่อเพิ่มพูนทักษะของผู้รับการฝึก

เป้าหุ่นนูนแบบ 3 มิติ ทำให้สามารถฝึกยิงในหลายๆมุมได้จึงมีความเหมือนจริงมากขึ้น หลายครั้งอาจแต่งตัวให้เป้าด้วยเสื้อผ้าแบบต่างๆเพื่อให้คุ้นเคยกับเป้าหมายที่เหมือนคนมากขึ้น

การซ้อมยิงเป้าเราสามารถคิด ประดิษฐ์ หรือปรับเป้าต่างๆที่เรามีโดยใช้ในรูปแบบที่ต่างออกไปได้ตามจุดประสงค์ที่เราต้องการได้จากการฝึก ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งเสอมไป โดยอาศัยหลักที่ว่า มีเป้าที่เราสามารถทำการยิงเร็วได้ซึ่งควรเป็นเป้าหมายใหญ่ เป้าหมายเล็กซึ่งเราต้องเล็งละเอียดขึ้น เป้าหมายที่ไม่ควรยิงและเป้าหมายที่ควรยิงเพื่อฝึกการแยกแยะเป้าหมายก่อนการยิง สุดท้ายอาจมีเป้าเคลื่อนที่ร่วมด้วยเพื่อเพิ่มทักษะให้ดีขึ้น เป็นต้น

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”
                                                            เรียบเรียงโดย Batman

Sunday, June 12, 2016


Fighting Stance

ท่ายืนยิงที่นิยมใช้กันได้แก่ Isosceles, Weaver และ Chapman โดยท่า Weaver และ Chapman มีความใกล้เคียงกันมากต่างกันแค่แขนข้างขวางอหรือเหยียดตึงเท่านั้น มีอีกท่าหนึ่งที่อยากแนะนำก็คือ Fighting Stance หรือบางคนเรียกว่า Boxer Stance, Tactical Stance, Modified Isosceles หรือ Modified Weaver เป็นต้น

ท่านี้ถูกคิดค้นและนิยมใช้ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของทหารอเมริกัน โดยนำข้อดีของท่า Isosceles และ Weaver มารวมกัน และเริ่มแพร่หลายในหน่วยงานของตำรวจมากขึ้นเรื่อยๆ จึงขอนำมาให้เราได้รู้จักกัน

การวางเท้าของท่านี้จะกว้างประมาณเท่าหัวไหล่ของผู้ยิงหรือกว้างกว่าเล็กน้อยโดยให้เท้าขวาอยู่หลังเท้าซ้ายเล็กน้อย (กรณียิงด้วยมือขวา) ซึ่งทำให้การยืนมีความมั่นคงกว่าท่า Isosceles ส่วนลำตัวจะหันเข้าหาเป้าหายรวมถึงแขนทั้งสองข้างเหยียดตึงเหมือนท่า Isosceles

ท่านี้รวมข้อดีของ Isosceles เกี่ยวกับความแม่นยำและเหมาะกับเจ้าหน้าที่ซึ่งใส่เสื้อเกราะไว้ด้านหน้าของลำตัวหันเข้าหาเป้าหมาย (ท่า Weaver จะหันด้านข้างเข้าหาเป้าหมาย หากใส่เสื้อเกราะจะเป็นการหันด้านที่มีการปกป้องน้อยเข้าหาเป้าหมายซึ่งอาจไม่ปลอดภัย) และแก้ไขข้อจำกัดของท่า Isosceles เกี่ยวกับการยืนซึ่งขาดสมดุลหน้า-หลัง ท่านี้การวางเท้าทำให้เกิดสมดุลทั้งด้านข้างและหน้า-หลัง

ท่ายิงปืนเหล่านี้มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดเสมอและไม่ใช่ทุกท่าเราจะยิงได้ถนัด ดังนั้นเราต้องหาว่าเรายิงด้วยท่าใดแล้วมีความถนัดมีประสิทธิภาพที่สุด ที่สำคัญเราต้องฝึกซ้อมให้เกิดทักษะความชำนาญ

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”



                                                เรียบเรียงโดย Batman

                                                อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง The 3 Shooting Stand: Which one’s right for you? โดย Kenneth DeCicco

Sunday, May 29, 2016

ปืนเจาะพอร์ต


ปืนเจาะพอร์ต

ปืนพกบางรุ่นบางกระบอกมีการเจาะช่องระบายก๊าซที่ปลายปากกระบอกปืน ช่องนี้มีประโยชน์อย่างไร จำเป็นมากน้อยแค่ไหนเรามาคุยกัน

ช่องระบายก๊าซที่ปลายลำกล้องปืนเราเรียกว่า พอร์ต (Port) เป็นช่องระบายก๊าซที่เกิดขึ้นขณะยิงปืนเมื่อกระสุนพ้นปากลำกล้องปืนออกไป ก๊าซที่ขับดันกระสุนให้พ้นปากกระบอกปืนจะถูกพ่นและระบายออกที่ช่องนี้เกิดแรงต้านในทิศทางตรงข้ามกับการกระดกขึ้นของปากกระบอกปืนขณะยิงปืน ทำให้ลดการสะบัดของปากกระบอกปืนเป็นผลให้ทำการยิงซ้ำได้เร็วขึ้น บางคนคิดว่าลดแรงถีบของปืนลงด้วยซึ่งไม่จริง ด้วยจุดประสงค์นี้แนวเจาะพอร์ตจึงอยู่แนวด้านบนของลำกล้องปืน

แน่นอนว่าทุกสิ่งมีข้อดีและข้อเสียหรือข้อดีนั้นต้องแลกมาด้วยบางสิ่งที่เราต้องเสียไป ในที่นี้คือ ความเร็วกระสุนที่ลดลง เนื่องจากแรงขับดันหัวกระสุนลดลงจากการถูกระบายออกเร็วกว่าปกติ

ในปัจจุบันปืนที่นิยมเจาะพอร์ตมีตั้งแต่ปืนพกกึ่งอัตโนมัติขนาดลำกล้องปกติ (5 นิ้ว) จนถึงปืนลำกล้องที่สั้นกว่า เช่น ปืน Glock เป็นต้น แต่ที่พบบ่อยก็มักเป็นปืนลูกโม่โครงเล็กเพื่อพกซ่อนไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ Smith & Wesson หรือ Taurus

จากการทดสอบปืนที่มีและไม่มีพอร์ตพบว่าลำกล้องปืนสะบัดขึ้นน้อยลงจริงในปืนที่มีพอร์ตในขณะที่ความเร็วกระสุนก็ลดลง ประโยชน์ที่ได้ก็เรื่องของการยิงซ้ำได้เร็วขึ้น เนื่องจากความเร็วกระสุนที่ลดลงทำให้เหมาะกับการยิงเป้าหมายระยะใกล้ ซึ่งการยิงเพื่อป้องกันตัวมักเกิดขึ้นในระยะใกล้มากๆ ปืนเจาะพอร์ตจึงใช้ในการยิงเพื่อป้องกันตัวได้อย่างไม่มีปัญหา แต่การยิงบางท่าหรือบางสถานการณ์ เช่น การยิงจากตำแหน่งที่พกปืน (Retention position), การยิงขณะที่มีการกำลำกล้องปืน, การยิงระยะใกล้เมื่อมีการต่อสู้บนพื้น (Ground fighting) เป็นต้น ซึ่งแสงไฟจากพอร์ต ควันและเขม่าดินปืนซึ่งพุ่งออกมาจากพอร์ตอาจมีผลกระทบต่อผู้ยิงได้ บางคนบอกว่าแสงไฟที่ออกจากพอร์ตอาจรบกวนการยิงในภาวะแสงต่ำแต่โดยส่วนตัวไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา

การเจาะพอร์ตปืนมีการออกแบบที่หลากหลายเพื่อให้ได้ประสิทธิผลตามที่ต้องการ ต้องใช้การคำนวณและเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูงในการเจาะพอร์ต ไม่ใช่แค่ให้มีรูที่ปลายกระบอกปืนก็ใช้ได้แล้ว ดังนั้นการเจาะพอร์ตมาจากโรงงานผลิตปืนโดยเฉพาะหรือจากช่างปืนที่มีความรู้ความชำนาญในด้านนี้น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด การนำปืนมาเจาะพอร์ตเองโดยช่างที่ไม่ชำนาญและไม่มีความรู้ด้านนี้อาจทำความเสียหายให้กับปืนหรือไม่ได้ผลตามที่เราอยากได้

ผู้เชี่ยวชาญบางคนไม่ชอบปืนเจาะพอร์ตเนื่องจากต้องเรียนรู้เพิ่มเติมในการใช้ปืนดังกล่าวในสถานการณ์พิเศษ ดังนั้นเราต้องฝึกยิงปืนกับปืนเจาะพอร์ตบ้างเพื่อให้คุ้นเคย เรียนรู้ข้อดีและข้อจำกัดของปืนเจาะพอร์ต ผู้ใช้ปืนต้องเป็นคนเลือกเองว่าจะใช้ปืนเจาะพอร์ตหรือไม่ หากเป็นไปได้อาจทดลองยิงปืนเจาะพอร์ตดูบ้าง

ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”




                                                                                                  



เรียบเรียงโดย Batman

Saturday, May 14, 2016

เลือกปืนให้เหมาะกับตัวเรา

เลือกปืนให้เหมาะกับตัวเรา

ในปัจจุบันปืนพกมีหลายรูปแบบ หลายลักษณะ หลายขนาด มีความแตกต่างตามแต่บริษัทจะออกแบบ และวัตถุประสงค์ของการใช้งาน แน่นอนว่าปืนเป็นอาวุธที่ไม่เลือกเพศ หมายความว่า มันพร้อมใช้งานไม่ว่าคนยิงจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นปืนลูกโม่หรือปืนพกกึ่งอัตโนมัติต่างก็มีมิติของตัวปืนที่หลากหลาย
หลักในการเลือกปืนให้เหมาะกับตัวเราคงต้องเริ่มที่การเลือกขนาดกระสุนที่เราต้องการใช้ ในการป้องกันตัวจากภัยคุกคามที่เป็นมนุษย์ ควรเริ่มต้นที่ขนาด .38 นิ้ว เป็นต้นไป จนถึงขนาด .45 นิ้ว กระสุนขนาดที่เล็กกว่านี้อำนาจหยุดยั้งไม่ดี ส่วนกระสุนขนาดใหญ่กว่านี้นิยมในการล่าสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ และตัวปืนมีขนาดใหญ่เทอะทะไม่คล่องตัวไม่เหมาะแก่การใช้ป้องกันตัว
สำหรับปืนลูกโม่กระสุนขนาด .38 Special นิยมมากที่สุด โดยอาจเลือกใช้กระสุนที่มีแรงขับมากขึ้นเพื่อเพิ่มอำนาจหยุดยั้ง เช่น .38 Special +P หรือ .38 Special +P+ ก็ได้หากตัวปืนรองรับกระสุนพิเศษเหล่านี้ (ที่ลำกล้องปืนมักระบุกระสุนพิเศษเหล่านี้หากรองรับได้) ส่วนกระสุนขนาด .357 Magnum ไม่ค่อยนิยมเพราะอำนาจทะลุทะลวงสูงเกินไป อีกทั้งแรงถีบของปืนจะมากกว่า .38 Special อยู่พอสมควรทำให้คุมปืนได้ยากกว่า
สำหรับปืนพกกึ่งอัตโนมัติกระสุนขนาด 9 ม.ม. นิยมมากที่สุด ส่วนกระสุนขนาดอื่น เช่น .380, .40, .44, .45 ก็พอมีคนใช้ สำหรับในประเทศไทยกระสุนขนาด 9 ม.ม. นิยมมากที่สุดเช่นกัน รองลงมาก็ขนาด .45 ACP กระสุนขนาดอื่นนิยมน้อยลงมากเพราะหากระสุนใช้งานและใช้ซ้อมยากอีกทั้งมีราคาแพง
แล้วกระสุนขนาดไหนดีกว่ากัน เรื่องนี้คงต้องมาพิจารณาที่อำนาจหยุดยัง (Stopping power) และอำนาจสังหาร (Killing power) ของกระสุนแต่ละขนาด โดยทั่วไปอำนาจหยุดยั้งและอำนาจสังหารของกระสุนขนาด .38 Special ใกล้เคียงกับขนาด 9 ม.ม. (ถึงแม้ขนาด 9 ม.ม. อาจดูมีภาษีดีกว่าเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็ถือว่าไม่มากนัก) กระสุนขนาด .45 ACP มีทั้งอำนาจหยุดยั้งและอำนาจสังหารดีกว่า .38 Special และ9 ม.ม. แต่อาจอำนาจสังหารด้อยกว่ากระสุนขนาด .357 Magnum เล็กน้อย ในสถานการณ์ป้องกันตัวเราต้องการอำนาจหยุดยั้งมากกว่าอำนาจสังหาร เพราะหากกระสุนมีอำนาจสังหารสูงแต่อำนาจหยุดยั้งต่ำนั้นหมายความว่าเมื่อเรายิงถูกภัยคุกคามแล้วแต่ภัยคุกคามยังไม่เสียชีวิตทันทีสามารถทำการยิงต่อสู้กับเราไปได้อีกพักใหญ่กว่าจะเสียชีวิตก็คงไม่ดีแน่ๆ ดังนั้นเราต้องการกระสุนที่มีอำนาจหยุดยั้งสูงๆเพื่อที่เมื่อเรายิงถูกเป้าหมายแล้วสามารถสยบภัยคุกคามไม่ให้สามารถตอบโต้เราได้อีกถึงแม้จะยังไม่เสียชีวิตก็ตาม
เมื่อเลือกขนาดกระสุนได้แล้วก็มาเลือกปืนที่ตรงกับขนาดกระสุนนั้น เช่น หากเราสนใจกระสุนขนาด .38 Special ก็เลือกปืนลูกโม่ลำกล้องขนาด .38 นิ้วหรืออาจใช้ปืนที่ใช้กับกระสุนขนาด .357 Magnum ก็ได้ เพราะกระสุนทั้งสองขนาดนี้ที่จริงแล้วขนาดหน้าตัดของกระสุนเท่ากันแต่ความยาวของกระสุนขนาด .357 Magnum ยาวกว่าเล็กน้อย แต่เราสามารถใส่กระสุนขนาด .38 Special ในโม่ของปืนขนาด .357 Magnum ปิดโม่และทำการยิงได้ ส่วนกระสุนขนาด .357 Magnum ไม่สามารถใส่ในโม่ของปืนขนาด .38 Special ได้เพราะกระสุนยาวกว่าโม่จึงปิดโม่ไม่ได้ ดังนั้นบางคนถึงแม้จะใช้กระสุนขนาด .38 Special ก็ซื้อปืนขนาด .357 Magnum เพราะสามารถใช้กับกระสุนได้สองแบบคือ .38 Special ที่มีความแรงพิเศษทั้ง +P และ +P+ และขนาด .357 Magnum และเชื่อว่าปืนขนาด .357 Magnum ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าปืนขนาด .38 Special จะคุมปืนได้ดีกว่า ส่วนความยาวลำกล้องปืนที่นิยมก็มี 4 นิ้ว, 3 นิ้ว และ 2 นิ้ว ขึ้นกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน หากต้องการใช้เพื่อป้องกันตัวที่บ้านก็นิยมใช้ความยาวลำกล้อง 4 นิ้ว หากใช้เพื่อพกซ่อนขนาด 3 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว ก็ดูจะเหมาะสมกว่า
หากเลือกกระสุนขนาด 9 ม.ม. หรือ .45 ก็เลือกปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ปืนมีหลากหลายรูปแบบ หลายขนาด ตามแต่วัตถุประสงค์ของการใช้งานเป็นสำคัญ สำหรับกระสุนขนาด 9 ม.ม. ในปัจจุบันนิยมใช้กับปืนโครงโพลิเมอร์เป็นส่วนใหญ่ เช่น Glock แต่ก็มีอีกหลายยี่ห้อที่ทำปืนออกมาได้ดีเช่นกัน ส่วนกระสุนขนาด .45 ส่วนใหญ่เป็นกระสุน .45 ACP (Automatic Colt Pistol) ซึ่งนิยมใช้กับปืนที่ออกแบบในรูปแบบ 1911 ซึ่ง Colt เป็นต้นตำหรับ ส่วนปืน Glock ที่ออกแบบกับกระสุนขนาดใหญ่จะเป็นกระสุนขนาด .45 GAP (Glock Automatic Pistol) ซึ่งมีการออกแบบกระสุนที่แตกต่างออกไปเล็กน้อย โดยทั่วไปกระสุน .45 ACP นิยมมากกว่า .45 GAP
เมื่อเลือกปืนได้ที่เหมาะกับกระสุนของเราได้แล้วก็ต้องทดลองยิงดูว่าเราจับปืนกระบอกนั้นๆได้กระชับดี สามารถคุมปืนและเหนี่ยวไกได้สะดวก สามารถกระชากสไลด์ถอยหลังได้ไม่ยาก (หากเลือกปืนพกกึ่งอัตโนมัติ) ดังนั้นเราต้องเลือกปืนให้เหมาะกับขนาดมือของเราที่จะสามารถคุมปืนได้ดี แน่นอนว่าหากเราไปร้านขายปืนคงไม่สามารถถือปืนและเหนี่ยวไกได้บ่อยนัก หากเป็นไปได้ให้ไปสนามยิงปืนแล้วเช่าปืนตามขนาดที่เราต้องการมาทดลองยิง หรือหากมาฝึกกับ TAS ซึ่งมีปืนให้เลือกใช้มากมายทำให้เราสามารถเลือกปืนให้เหมาะกับตัวเองได้ก่อนที่จะไปซื้อปืนกระบอกแรก
สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่ใช้ปืนขอให้มี “สติ”

                                                                              เรียบเรียงโดย Batman

Monday, May 2, 2016

การเลือกวัสดุซองปืนพกใน

ซองปืนพกในหรือบางคนเรียกว่าซองปืนพกซ่อนนั้นนิยมใช้กับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนอกเครื่องแบบเพื่อให้การพกพาอาวุธปืนเป็นการปกปิดซ่อนเร้นสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ทำได้อย่างราบรื่น ในปัจจุบันวัสดุในการทำซองปืนที่นิยมมี 3 อย่าง
1.        หนังสัตว์ (Leather) หากซื้อซองปืนมาใหม่ๆมักต้องมีช่วง Break-in ซึ่งเป็นช่วงที่ให้เวลาซองปืนได้ปรับตัวเองให้เข้ากับปืนที่พก เนื่องจากซองปืนใหม่ๆเมื่อใส่ปืนลงไปมักคับมากและยังไม่ได้รูปทรงที่เหมาะกับปืนของเรามากนักทำให้การชักปืนออกจากซองหรือนำปืนใส่ซองทำได้ลำบากไม่ราบลื่น หลังจากผ่านช่วง Break-in ไปแล้วซองปืนจะได้รูปทรงที่ตรงกับปืนของเราและไม่คับหรือหลวมเกินไป ซองปืนที่ทำมาดีอาจไม่มีสายคาดปืน (Safety strap) เพื่อยึดปืนไม่ให้เคลื่อนออกจากซองปืนเพราะซองกระชับกับปืนพอดีทำให้การเอาปืนใส่ซองทำได้ด้วยมือเดียวอันเป็นเทคนิคที่สำคัญสำหรับปืนพกซ่อน ข้อดีของซองหนังอย่างอื่นอยู่ที่ราคาไม่แพงมากนัก คงทน ไม่ก่อให้เกิดเสียงขณะชักปืน พกพาหรือใส่ปืนกลับเข้าซอง ข้อเสียคืออายุใช้งานอาจไม่เท่าซองที่ทำจากพลาสติก เช่น Kydex และเสียเวลากับการทำ Break-in ทำความสะอาดยาก เมื่อเปียกน้ำแล้วต้องรอนานกว่าจะแห้งและซองอาจเสียรูป เป็นต้น
2.        ผ้า ส่วนใหญ่เป็นไนล่อน ซองปืนมักมีสายคาดตัวปืนเพื่อยึดปืนไว้กับซองปืน ข้อดีอย่างแรกคือ ราคาย่อมเยาจับต่อได้ เมื่อเราใช้พกซ่อนมักสบายตัวกว่าซองที่ทำจากวัสดุอื่น ไม่ก่อให้เกิดเสียงดังเมื่อชักปืน พกพาหรือนำปืนกลับใส่ซองทำให้การพกซ่อนเนียนขึ้น ข้อเสียคือ เวลาใส่ปืนกลับเข้าซองส่วนใหญ่มักต้องใช้สองมือเพราะซองปืนไม่ได้ขึ้นรูปแข็งทำให้การใส่ปืนด้วยมือเดียวทำได้ไม่สะดวกนัก เมื่อเปียกต้องรอนานกว่าจะแห้ง หากสิ่งสกปรกซึมลึกเข้าไปก็อาจทำความสะอาดยาก แต่เราก็สามารถซักซองปืนแบบนี้ได้
3.        พลาสติก เช่น Kydex เป็นพลาสติดขึ้นรูปแข็งตามชนิดและขนาดของปืน หากขึ้นรูปดีๆจะแนบกับตัวปืนแน่นดีจนไม่จำเป็นต้องมีปุ่มล็อคปืนหรือสายคาดตัวปืนทำให้สะดวกในการชักและเก็บปืน ข้อดี เช่น สามารถเก็บปืนเข้าซองทำได้ด้วยมือเดียว ทำความสะอาดง่าย คงทนในการใช้งาน ข้อเสียคือ เกิดเสียงดังง่ายมากเมื่อซองปืนกระทบกระแทกกับของแข็งไม่ว่าจะกระทบกับตัวปืนเองหรือวัตถุภายนอกทำให้การพกซ่อนอาจไม่เนียนมากนัก และที่สำคัญราคามักสูงกว่าวัสดุอื่น

การพิจารณาเลือกซองปืนพกในหรือพกซ่อนก็ขึ้นกับภาระงานหรือลักษณะงานที่ทำ ตำแหน่งที่เราจะพกซ่อน วัสดุที่ใช้ทำซองปืน และสุดท้ายก็ราคาที่เรายอมรับได้ วัสดุทั้งสามที่กล่าวมานี้เป็นเพียงข้อพิจารณาเบื้องต้นซึ่งผู้ใช้งานสามารถนำไปประกอบการตัดสินใจเลือกซองปืนพกในได้
 ปัจจุบันมีการออกแบบวิธีการและอุปกรณ์ช่วยพกซ่อนที่หลากหลายมากขึ้นแต่อาจหายากในประเทศไทยเนื่องจากตลาดปืนมีขนาดเล็กและถูกจำกัดมากหากเทียบกับอเมริกา

เมื่อเราเลือกที่จะพกซ่อนก็ควรมีการฝึกชักปืนออกจากซองพกในเพื่อทำการยิงเป้าหมายและเก็บปืนเข้าซองปืนบ้าง เพื่อให้เรามีความคุ้นเคยหากตกอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต้องชักปืนออกจากซองปืนพกในก็สามารถทำได้อย่างคล่องแคล้วไม่ติดขัด สิ่งนี้อาจสร้างความแตกต่างระหว่างความเป็นและความตายได้เลยทีเดียว

                                                                                    เรียบเรียงโดย Batman

ทักทาย

ห่างหายไปนานกับบทความดีๆเกี่ยวกับอาวุธปืนเนื่องจากภาระงานที่มากขึ้น แต่คนรู้จักหลายท่านเรียกร้องให้นำความรู้มาแบ่งปันกันอีก จึงถือโอกาสนี้นำบทความที่น่าสนใจมาลงเพิ่มเติมเพื่อให้ทุกท่านที่สนใจการใช้อาวุธปืนเพื่อป้องกันตัวได้มีความรู้เพิ่มเติมและถูกต้องมากขึ้น

ที่ผ่านมาพบว่าบางเว็บนำบทความของผมไปลงโดยไม่ขออนุญาตและแอบอ้างว่าเป็นบทความของตนเอง อีกทั้งได้มีการนำไปพิมพ์เพื่อขายโดยไม่ได้ขออนุญาต

นอกจากนั้นแม้แต่ตำราเรียนของเจ้าหน้าที่ก็นำบทความของผมไปลงโดยไม่ขออนุญาตและไม่มีการอ้างถึงแหล่งที่มาของบทความดังกล่าว (ทำให้เข้าใจได้ว่าผู้นำบทความไปลงเป็นผู้เขียนเอง) ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”


                                                                                                                        Batman

Newcastle limousines