Wednesday, March 25, 2009

Home Defensive Guns
















Home defensive guns

เมื่อเราจะเลือกปืนสักกระบอกเอาไว้ใช้ในบ้านเพื่อดูแลชีวิตและทรัพย์สิน เราควรเลือกปืนชนิดใดระหว่างปืนสั้นกับปืนลูกซอง เป็นคำถามที่หลายคนอยากทราบคำตอบ นาย Walt Rauch ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจในบทความเรื่อง A Matter Of Choice

เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า “ปืนลูกซอง” เป็นปืนที่ดีที่สุดในการใช้ปกป้องภัยคุกคามภายในบ้าน (Home defense) โดยให้เหตุผลว่า คุณไม่จำเป็นต้องเล็งมากมายแค่ชี้ไปในทิศทางที่ต้องการแล้วก็ยิงได้เลย นอกจากนั้นเสียงการขึ้นลำของปืนลูกซองก็ให้ผลทางจิตวิทยามากพอที่ภัยคุกคามเมื่อได้ยินแล้ว (ถ้าเขารู้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของการขึ้นลำของปืนลูกซอง และถ้าสัญชาติญาณในการเอาชีวิตรอดแรงกว่าความต้องการเข้ามาก่ออาชญากรรม) ก็อาจวิ่งหนีไปเสียก่อนแล้ว

กลุ่มกระสุนของปืนลูกซองเมื่อยิงออกไปหลังจากระยะสามหลาจะกว้างขึ้นประมาณ 1 นิ้วทุกๆ 1 หลาที่ห่างออกไป นั้นหมายความว่าในระยะ 12 ฟุตคุณมีกลุ่มกระสุนกว้าง 2 นิ้วที่จะกระทบเป้าหมาย (ไม่ได้กระจายไปทั่วห้อง)

สำหรับนาย Rauch แล้วเขาไม่ลังเลที่จะใช้ปืนลูกซองในการป้องกันตัว เพราะมันยิงถูกเป้าหมายได้ง่ายกว่าปืนสั้น และมีประสิทธิภาพดีกว่าในแง่อำนาจหยุดยั้ง แต่ผู้ใช้ก็ต้องใช้ให้ถูกต้องเหมาะสมและรู้ข้อดี ข้อจำกัดของปืนลูกซองด้วย

สำหรับปืนสั้นแล้วต้องการการฝึกฝนมากกว่าในการที่จะยิงเป้าหมายให้ถูกในระยะห่างหนึ่งๆ นาย Rauch เคยอ่านรายงานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงคนร้ายด้วยปืนสั้นในระยะใกล้ (Point blank range) สามนัด แต่ไม่มีนัดใดยิงถูกเลย

อย่างไรก็ตามปืนสั้นนั้นเป็นปืนที่สามารถทำงานได้ดีเมื่อใช้งานด้วยมือเดียว แม้อำนาจหยุดยั้งของปืนสั้นจะด้อยกว่าปืนลูกซองแต่ก็ชดเชยด้วยการที่มันใช้งานง่ายกว่า นอกจากนั้นปืนสั้นยังพกซ่อนได้ง่ายกว่า (อาจซ่อนไว้ในเสื้อผ้า ใต้เครื่องเรือนภายในบ้าน หรือไว้ในมือโดยปืนนั้นพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา)

ปืนลูกซองมีน้ำหนักมากกว่าปืนสั้นมาก ในสถานการณ์ที่เราต้องถือปืนคุมคนร้ายตลอดเวลา ด้วยความหนักของปืนลูกซองคนร้ายอาจหนีไปได้อย่างไม่ยากนัก นอกจากนั้นไม่ใช่ว่าในบ้านจะมีเราเพียงคนเดียวที่ต้องการอาวุธเพื่อใช้งาน บางคนในบ้านอาจไม่สามารถถือปืนลูกซองขึ้นและใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าถือปืนลูกซองได้ไม่ดีเมื่อยิงไปแล้วอาจมีเหตุติดขัดของปืนได้ง่ายโดยเฉพาะเมื่อใช้ปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติ

ข้อได้เปรียบของปืนสั้นอีกแง่หนึ่งคือ คุณสามารถใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้ถือปืนทำอย่างอื่นเช่น เปิดประตู และใช้ร่วมกับไฟฉายได้ง่ายกว่า

การใช้ศูนย์ไฟฉาย (ไฟฉายที่ติดกับปืน) เวลาใช้งานไฟฉายและลำกล้องปืนจะไปในทิศทางเดียวกันตลอด แม้ว่าในบางโอกาสเราไม่ได้ต้องการเช่นนั้น

ใครก็ตามที่จะใช้ปืนลูกซองควรมีการฝึกยิงแห้ง (ไม่มีลูกกระสุนในรังเพลิง) โดยเขาแนะนำให้ฝึก “ตื่นและไป (Wake-up and go)” และจับเวลาขณะที่ลองทำ (เป็นการจับเวลาว่าเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นเราใช้เวลานานแค่ไหนในการที่จะตื่นขึ้น หยิบปืนและทำให้ปืนพร้อมใช้งาน)

การบุกเข้ามาในบ้านนั้นมักเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง คุณต้องพร้อมที่จะรับมือกับภัยคุกคามได้ทันเวลาก่อนที่ภัยคุกคามจะมาถึงตัวคุณ หลักง่ายๆคือ คุณมีเวลามากเพียงเท่าที่ใครสักคนใช้ในการเปิดประตูธรรมดาไม่ว่าจะใช้กุญแจหรือไม่ และเคลื่อนที่ไปหาคุณหรือสมาชิกในครอบครัวเพื่อทำอันตราย

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าจะเป็นปืนลูกซองหรือปืนสั้นก็ไม่มีปืนแบบใดดีที่สุดสำหรับ “ทุกสถานการณ์” ในการใช้ป้องกันภัยคุกคามภายในบ้าน (Home defense) ดังนั้นการมีปืนทั้งสองแบบไว้ใช้จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

ปืนลูกซองและปืนสั้นมีหลายแบบหลายขนาดให้เลือกใช้ มีข้อดี ข้อด้อยและข้อจำกัดในปืนแต่ละแบบ เราควรต้องศึกษาเพื่อเลือกและใช้ปืนให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ อีกทั้งต้องฝึกฝนการใช้งานจนเกิดทักษะความชำนาญ

TAS สอนการใช้อาวุธปืนสั้นที่สามารถใช้งานได้ง่ายทั้งหญิงและชาย รวมทั้งแทคติกอีกมากเพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างไม่ยากนัก
สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี "สติ"

เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความ A matter of choice ของ Walt Rauch

No comments:


Newcastle limousines