Saturday, May 16, 2009

Rules for Combative Handgun Training


Rules for Combative Handgun Training

นาย Dave Spaulding ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการฝึกยิงปืนสั้นไว้อย่างน่าสนใจ เขาพบว่าผู้คนสมัยนี้มักเสาะหาหลักสูตรยิงปืนที่มีความหวือหว่า บางคนยิงปืนเพื่อการแข่งขันและอีกกลุ่มเน้นที่การยิงปืนเพื่อป้องกันตัวและต่อสู้ นาย Dave ได้เปิดหลักสูตรอบรมยิงปืนโดยอาศัยประสบการณ์ที่เคยเป็นผู้รักษากฏหมายมาสามสิบกว่าปีและเคยเผชิญหน้ากับคนร้ายที่มีอาวุธหลายครั้ง เขาพบว่าครูฝึกหลายคนได้สอนให้ยิงปืนในรูปแบบที่ซับซ้อนทั้งๆที่สามารถทำมันให้เรียบง่ายได้ไม่ยากนัก

ความจริงอย่างหนึ่งก็คือ ในสถานการณ์หนึ่งๆมีหลายวิธีที่สามารถยิงปืนให้ประสบผลสำเร็จได้ บางวิธีซับซ้อน บางวิธีเรียบง่าย แต่การยิงที่เรียบง่ายไม่สามารถนำมาขายในชื่อ “การยิงระดับก้าวหน้าหรือชั้นสูงได้ ("advanced" firearms training course)"

เขาเคยเข้าไปอ่านการสนทนาในอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่ง (Evan Marshal's website and chat room) และมีประโยคหนึ่งที่เขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง “การยิงปืนระดับก้าวหน้าหรือชั้นสูงไม่มีอะไรเลย มันก็แค่การยิงปืนโดยอาศัยพื้นฐานที่ดีเท่านั้นเอง”

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำการฝึกยิงปืนในทุกสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้เพราะมันมีมากเกินไป สิ่งที่ควรนำมาฝึกฝนคือการอาศัยสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต

ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่าการยิงต่อสู้ด้วยปืนสั้นส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระยะใกล้ ใช้เวลาไม่กี่วินาที และมีหลายเป้าหมายซึ่งเคลื่อนที่ ดังนั้นการฝึกชักปืนออกจากซองปืนในขณะเคลื่อนที่ออกด้านข้าง ทำการยิงหลายเป้าหมายในหลายระยะน่าจะเป็นการฝึกที่มีประโยชน์อย่างมาก และจะเป็นการดียิ่งขึ้นเมื่อทำการฝึกเคลื่อนที่ให้เร็วขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ต้องเร็วพอที่ยังสามารถยิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฝึกในสถานการณ์จำลองก็มีประโยชน์มากเช่นกัน เนื่องจากเป็นการฝึกคิดอย่างรวดเร็วและการแยกแยะเป้าหมายซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็น การฝึกกับปืนอัดลมหรือปืนที่ใช้กระสุนสี (Airsoft or Simunitions training) เป็นสิ่งที่มีประโยชน์ สมองของเราสามารถเรียนรู้ที่จะตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เห็นเบื้องหน้าโดยไม่สนว่ามันจะเป็นเหตุการณ์จริงหรือไม่ การฝึกต่างๆต้องมีความปลอดภัยจะต้องไม่มีการเสียชีวิตหรือบาดเจ็บร้ายแรงในการฝึก นอกจากนั้นการฝึกยังคงต้องเน้นที่พื้นฐานการยิงปืนโดยใช้อาวุธปืนประจำกายของผู้รับการฝึกเอง เพื่อให้เกิดความเคยชินและชำนาญในการใช้อาวุธของตนเอง

กฎของการยิงปืนระบบต่อสู้ (Rules for Combative Handgun Training)

เป็นกฎที่นาย Dave นำมาจากหนังสือเกี่ยวกับการยิงปืนของ นาย J. Michael Plaxco ซึ่งเขาถือปฏิบัติมาตลอด กล่าวคือ

- ความแม่นยำต้องมาก่อนความเร็ว หมายความว่า คุณต้องยิงถูกสิ่งที่คุณต้องยิง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คุณต้องยิงให้ถูกเป้าหมาย

- เรียนรู้ที่จะใช้ทักษะของคุณให้ได้ดั่งใจ หมายความว่า เข้าใจพื้นฐานและนำมันมาปรับใช้กับสถานการณ์ได้ตลอดเวลา อย่าสนใจอย่างอื่นขณะยิงปืน

- คุณต้องแข่งขันกับความเร็วตามธรรมชาติของตัวคุณเอง หมายความว่า อย่าพยามเร่งหรือหน่วงความเร็วของคุณ ในการยิงต่อสู้นั้นถ้ายิงปืนด้วยความตระหนกจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ คุณต้องตระหนักเสมอว่าไม่ยิงเร็วเกินกว่าที่คุณจะสามารถทำการยิงที่ดีได้

- ความเร็วเป็นความลงตัวของการเคลื่อนไหว หมายความว่า ทุกการเคลื่อนไหวจะเกิดผลบางอย่างขึ้น ไม่มีการเคลื่อนไหวที่เปล่าประโยชน์ อย่าทำในสิ่งที่คุณไม่ต้องการทำ คงการเคลื่อนไหวของคุณให้เรียบง่ายเข้าไว้ซึ่งมักจะเป็นการคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพเช่นกัน

- ความเร็วจะเพิ่มขึ้นเมื่อทำการฝึกฝนบ่อยๆ หมายความว่า คุณไม่จำเป็นต้องพยายามทำให้เร็วขึ้น เมื่อคุณฝึกฝนบ่อยๆจนเกิดความชำนาญ คุณจะสามารถทำมันได้เร็วขึ้นเองอย่างเป็นธรรมชาติ

- ให้การเล็งเป็นตัวบอกว่าจะยิงเมื่อใด หมายความว่า แนวปืน (ศูนย์หน้า ศูนย์หลัง และเป้า) เป็นตัวบงบอกความเร็วในการยิงปืนของคุณ ถ้าศูนย์ปืนอยู่ในแนวแล้วก็ยิงได้เลย แต่ถ้าศูนย์ปืนยังไม่อยู่ในแนวก็ห้ามยิง แต่ในการยิงต่อสู้คุณอาจไม่สนใจศูนย์ปืนเลยก็ได้ (ขึ้นอยู่กับสถานการณ์)

- เรียนรู้ภาพการเล็งที่ยอมรับได้และการเหนี่ยวไก หมายความว่า คุณภาพการเล็งปืนไปที่เป้าหมายระยะ 15 หลาย่อมไม่เหมือนกับระยะ 50 หลา คุณคงอยากได้การเล็งที่สมบูรณ์แบบทุกครั้งที่จะยิง แต่คุณควรเรียนรู้การเล็งเพียงเพื่อให้สามารถยิงถูกเป้าหมายที่ระยะต่างๆว่ามันเป็นอย่างไร

- ยิงทีละนัด นัดต่อไปอาจเป็นนัดที่สำคัญที่สุดในชีวิตก็ได้ หมายความว่า อย่าติดอยู่ในความคิดที่สักแต่จะยิงอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็นการยิงแข่งขันหรือยิงต่อสู้จริง การยิงถูกเป้าหมายหนึ่งนัดก็ถือว่าชนะแล้ว

- ถ้าไม่ว่าอะไรก็ผิดพลาดไปหมด ให้วางแนวปืนไปที่เป้าหมายแล้วเหนี่ยวไกแบบที่ลากไกไปหยุดตรงตำแหน่งที่นกสับหรือเซียร์ถอยหลังมาจนสุดแล้วค่อยๆเพิ่มน้ำหนักไกจนกระสุนยิงออกไป หมายความว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าคุณวางแนวปืนและเหนี่ยวไกในลักษณะนี้แล้วมักจะยิงถูกเป้าหมายได้

การยิงปืนในระบบต่อสู้มีความแตกต่างจากการยิงปืนแข่งขันในหลายประเด็น แต่ก็มีการแข่งขันยิงปืนบางประเภทที่นำหลักการของการยิงปืนระบบต่อสู้มาใช้ แต่กระนั้นก็ยังมีข้อจำกัดอยู่หลายประการ เนื่องจากการยิงปืนระบบต่อสู้มีหลักที่ว่า “เราต้องปลอดภัยไว้ก่อน” ไม่ว่าจะเป็นการหาที่กำบังที่เหมาะสมและเคลื่อนที่เข้าหาที่กำบัง การเคลื่อนที่ยิง หรือยิงเป้าหมายที่เคลื่อนที่ การยิงหลายเป้าหมายและหลายระยะ การยิงหลังที่กำบัง (ตัวเราต้องโผล่ออกจากที่กำบังน้อยที่สุดเท่าที่จะสามารถทำการยิงเป้าหมายได้ ซึ่งต่างจากการยิงแข่งขันซึ่งผู้ยิงมักเปิดเผยตัวเองออกจากที่กำบังมากเพื่อทำการยิงได้อย่างถนัด ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากเป็นการเผชิญหน้ากับคนร้ายที่มีอาวุธปืนเช่นกัน) การแยกแยะเป้าหมาย การยิงในภาวะแสงต่ำ การอาศัยสภาพแวดล้อมในการอำพราง การตรวจการณ์หลังการยิง การยิงสองนัดซ้อนหรือ double taps การประเมินสถานการณ์ เป็นต้น ซึ่งหลายหลักการไม่สามารถนำมาใช้ในการยิงปืนแข่งขันทั่วไปได้

TAS เน้นการสอนยิงปืนระบบต่อสู้โดยฝึกฝนพื้นฐานการยิงปืนที่ถูกต้อง ผู้รับการฝึกสามารถนำไปปรับใช้กับการยิงปืนในสถานการณ์ต่างๆได้

“ยิงปืนให้ปลอดภัยและฝึกฝนอยู่เสมอ” เป็นสิ่งที่ผู้ใช้อาวุธปืนทุกคนควรถือปฏิบัติ

สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”

เรียบเรียงโดย Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง

Rules for Combative Handgun Training ของ Dave Spaulding

No comments:


Newcastle limousines