2
Seconds Rule
ในการพกพาอาวุธปืนสั้นสำหรับประชาชน
เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่นอกเวลาทำงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ
มักใช้ “การพกซ่อน (Concealed Carry)”
ซึ่งมีหลายวิธี แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการพกไว้บริเวณเอวโดยมีเสื้อผ้าปกปิด
หรือการพกไว้ที่ข้อเท้า เป็นต้น
โดยตำแหน่งที่พกบริเวณเอวอาจเป็นที่
12, 2, 3, 4, 6 หรือ 10 นาฬิกา เป็นส่วนใหญ่ (ในกรณีถนัดมือขวา) และใช้เสื้อผ้าปกปิดไว้
เช่น ชายเสื้อหรือใส่เสื้อแจ๊กเก็ตคลุมไว้ เป็นต้น (อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความเรื่อง
Concealed
Carry for Civilian วันที่ 4 Apr 10) ผู้หญิงบางท่านอาจใส่ปืนไว้ในกระเป๋าถือซึ่งไม่แนะนำ
เพราะเมื่อถูกปล้นหรือมีภัยคุกคามคนร้ายมักยึดกระเป๋าถือของผู้หญิงไว้เป็นอันดับแรกเนื่องจากในกระเป๋ามักมีเงิน
โทรศัพท์มือถือ ดังนั้นหากใส่ปืนไว้ในกระเป๋าถือก็จะถูกคนร้ายยึดไปด้วย
ในกรณีของปืนพกซ่อนเพื่อใช้งานอย่างจริงจังมักต้องสามารถเข้าถึงอาวุธปืนได้อย่างง่ายดาย
ซึ่งถือว่าเป็นปืนหลักแต่ใช้การพกซ่อนแทนการพกนอกอย่างเปิดเผย (Open
carry) ดังนั้นการพกปืนไว้ที่ข้อเท้าจึงมักใช้ในกรณีของปืนสำรอง (Backup
gun, BUG) มากกว่า
เมื่อปืนหลักถูกนำมาพกแบบซ่อนเร้นก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคงไว้ซึ่งศักยภาพในการเข้าถึงอาวุธปืนและสามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
มีหลักการหนึ่งที่ยึดถือในกรณีของปืนพกซ่อนก็คือ 2 Seconds Rule
ผู้ที่พกปืนแบบพกซ่อนจะต้องสามารถชักปืนออกจากตำแหน่งที่พกและทำการยิงเป้าหมายได้ภายในเวลา
2 วินาที
การที่จะทำเช่นนั้นได้ปืนจำเป็นที่จะต้องพร้อมใช้งานตลอดเวลา
ส่วนวิธีชักปืนออกจากที่พกก็มีหลายวิธีทั้งใช้มือเดียวและสองมือขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่พกและวิธีการปกปิดซุกซ่อน
ดังนั้นการฝึกชักปืนออกจากตำแหน่งที่พกซ่อนเพื่อใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่พกพาอาวุธปืนติดตัวตลอดเวลาแบบซ่อนเร้น
ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ
หรือในกรณีที่ปืนสำรองเป็นปืนพกซ่อนก็ควรมีการฝึกใช้งานจากตำแหน่งพกซ่อนเช่นกัน
มีข้อแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวในการพกพาอาวุธปืนแบบพกซ่อน
ก็คือ ควรมีกระสุนสำรองเก็บไว้ในซองกระสุนพกติดตัวอีกอย่างน้อย 1 ซอง
เผื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น
กรณีกระสุนหมดหรือมีเหตุติดขัดขณะยิงปืนซึ่งอาจต้องปลดซองกระสุนเก่าทิ้งอย่างน้อยก็ยังมีอีกหนึ่งซองเอาไว้ใช้งานได้
เรียบเรียงโดย
Batman
อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจาก
Magpul dynamics training program
No comments:
Post a Comment