Thursday, September 15, 2011

Gun and Law


Gun and Law

กฎหมายควบคุมอาวุธปืนสำหรับประชาชนนั้นเกิดจากข้อสันนิฐานที่ว่า ปืนเป็นอาวุธอันตรายร้ายแรงหากประชาชนสามารถครอบครองและพกพาได้อย่างอิสระอาจเกิดปัญหาการใช้อาวุธปืนอย่างไม่เหมาะสมมากขึ้นในสังคม เพื่อความสงบสุขรัฐจึงจำเป็นต้องควบคุมและจำกัดการครอบครองและพกพาอาวุธปืนของประชาชน

เมื่อรัฐนำปืนออกไปจากมือของประชาชนทั่วไปทำให้หน้าที่ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพวกเขาตกอยู่กับเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งก็คือ ตำรวจ

ในอเมริกาซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้อาวุธปืนเพื่อสร้างชาติและเห็นว่าการมีอาวุธปืนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเพื่อเอาไว้ปกป้องตัวเอง โดยมีถึง 42 รัฐซึ่งอนุญาตให้ประชาชนสามารถพกปืนด้วยซองปืนพกนอกได้ (Open carry)  แต่ก็มีบางสถานที่สาธารณะมีข้อกำหนดห้ามพกพาอาวุธปืนเข้าไป เช่น โรงเรียน เป็นต้น

เราคงได้ข่าวหลายครั้งเกี่ยวกับเหตุยิงกันภายในโรงเรียนของอเมริกาซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หลายคนคงมองต้นเหตุของสิ่งเหล่านี้ไปที่ “อาวุธปืน” ซึ่งคนร้ายใช้ก่อเหตุ ดังนั้นการห้ามมีและพกพาอาวุธปืนน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่พบว่าเหตุการณ์เหล่านี้หลายครั้งเกิดในรัฐหรือสถานที่ซึ่งห้ามพกพาอาวุธปืนเข้าไปอยู่แล้ว อีกทั้งยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนจากการศึกษาที่บ่งชี้ว่าการห้ามประชาชนพกพาอาวุธปืนจะสามารถลดอาชญากรรมเหล่านี้ได้

การห้ามประชาชนพกพาอาวุธปืนกลับพบว่าทำให้ประชาชนเหล่านั้นตกเป็นเหยื่อของการก่ออาชญากรรมได้ง่ายขึ้นและไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ ในขณะที่รัฐก็ไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาได้ในขณะเกิดเหตุ ถ้าพวกเขามีอาวุธปืนอยู่ในมือเหตุการณ์ร้ายเช่นนี้อาจไม่จบลงด้วยความสูญเสียมากเช่นนั้นก็ได้ ดังนั้นในปัจจุบันเริ่มมีโรงเรียนอย่างน้อย 26 แห่งใน 3 รัฐอนุญาตให้มีการพกพาอาวุธปืนเข้าโรงเรียนได้

เนื่องจากคนร้ายทั้งหลายไม่สนใจต่อกฎหมาย กฎระเบียบของสังคม พวกเขาไม่สนใจว่ารัฐนี้หรือสถานที่นี้ห้ามพกพาอาวุธปืน และพร้อมที่จะทำผิดกฎหมายด้วยความตั้งใจอยู่แล้ว ในขณะที่เหยื่อหรือประชาชนทั่วไปกลับไม่สามารถปกป้องตนเองได้ เพราะรัฐนำปืนออกไปจากมือของพวกเขาและไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมากพอที่จะมาระงับเหตุได้ทัน

ในอเมริกาเองรัฐซึ่งอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนได้อย่างเสรี กลับพบว่ามีอัตราการก่ออาชญากรรมด้วยอาวุธปืนน้อยกว่ารัฐอื่นๆมาก อาทิเช่น รัฐเท็กซัส เป็นต้น และพบว่าอาชญากรรมร้ายแรงหลายครั้งสามารถถูกหยุดได้ด้วยประชาชนที่มีอาวุธปืน

สำหรับประเทศไทยแล้วเมื่อรัฐนำปืนออกไปจากมือของประชาชน ก็เป็นหน้าที่ของรัฐในการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เรารู้อยู่ว่าอาชญากรรมร้ายแรงจากอาวุธปืนของคนร้ายนั้นมีมากแต่หากประชาชนมีอาวุธซึ่งสามารถป้องกันตัวเองได้แล้ว พวกเขาก็อาจไม่ตกเป็นเหยื่อเช่นนั้นก็ได้

ก็คงต้องถามทางรัฐว่ามีความสามารถมากพอที่จะปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้จริงหรือไม่ หรือเพียงแค่คอยเก็บศพประชาชนให้เป็นข่าวหน้าหนึ่งแล้วก็เลือนหายไป ถ้าเรารอดจากคมกระสุนมาได้ก็ถือว่า “โชค” ดี ถ้าเสียชีวิตก็ถือว่า “โชค” ร้าย เพราะอย่างไรเสียประชาชนทั่วไปก็ไม่สามารถมีอาวุธปืนไว้ป้องกันตัวเองได้อยู่แล้ว ในขณะที่รัฐก็ไม่สามารถปกป้องคุณได้ อย่าลืมว่ากฎหมายมีไว้ควบคุมคนดี แต่สำหรับคนร้ายแล้วเขาไม่สนใจกฎหมายอยู่แล้ว

แล้วท่านล่ะ... มีความคิดเห็นอย่างไร?

            สุดท้ายนี้ทุกครั้งที่จับปืนขอให้มี “สติ”

                                                                                                            เรียบเรียงโดย Batman
                                                                        อ้างอิงเนื้อหาบางส่วนจากบทความเรื่อง Campus carry reality check ของ Dave Bahde

1 comment:

Anonymous said...

ขอบคุณมากครับ
ติดตามอ่านมาตลอด ได้ความรู้มาก


Newcastle limousines